กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--กทม.
ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวว่า ได้มี ส.ส.บางคนของพรรคการเมืองหนึ่งได้กล่าวพาดพิงถึงตนในทางการเมือง และกทม.ไม่ให้ความร่วมมือ ในเรื่องเกี่ยวกับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและกทม.นั้น ตนขอเรียนว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากการดำเนินการโครงการดังกล่าวแต่เดิมนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาเครือข่ายการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในเขตกทม.ขึ้นมาชุดหนึ่ง โดยมี น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน น.พ.ประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นรองประธาน ต่อมาประธานคณะกรรมการพิจารณาเครือข่ายฯได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบเครือข่ายการให้บริการสุขภาพในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมี.น.พ.อุดมศักดิ์ สังฆ์คุ้ม รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานอนุกรรมการฯ มีหน้าที่จัดกลุ่มโซนเพื่อกำหนดสถานพยาบาลบริการประชาชนและได้ดำเนินการกำหนดพื้นที่บริการออกมา จำนวน 14 โซน เรียบร้อยแล้ว โดยในเบื้องต้นได้มีการดำเนินการนำร่องใน 3 โซน จำนวน 13 เขต ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.44 เป็นต้นมา ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วยดีและไม่มีปัญหา
ในส่วนการแจกบัตรทองให้แก่ประชาชนนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานงานกับสำนักงานทะเบียนราษฎรกรมการปกครองโดยตรง ไม่ได้ผ่านสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตเลย ดังนั้นข้อมูลที่ประชาชนจะได้รับบัตรทองจึงค่อนข้างอยู่ในวงจำกัด กล่าวคือ ตามระเบียบการได้รับสิทธิฯของประชาชนนั้น ผู้ที่ไม่สามารถรับบัตรทอง ได้แก่ ผู้ที่มีบัตร สปร. , บัตรประกันสุขภาพ , ข้าราชการผู้มีบัตรประกันสังคม แต่ขณะนี้ผู้ที่ได้รับบัตรทองบางรายเป็นผู้ที่มีรายชื่อซ้ำซ้อนกับผู้ไม่สามารถได้รับบัตรทองดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากทางสำนักงานทะเบียนราษฎรไม่มีข้อมูลว่าบุคคลใดมีบัตรประเภทใดอยู่แล้วบ้าง นอกจากนี้เมื่อทำบัตรทองเสร็จเรียบร้อยแล้วกระทรวงสาธารณสุขก็ได้นำบัตรทองไปมอบให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละพื้นที่ เพื่อมอบให้กับประชาชนต่อไป สำหรับวิธีการแจกบัตรทองนั้น ส.ส.จะนำบัตรฯไปแจกให้กับประชาชนถึงบ้าน หรืออาจจะไปตั้งหน่วยตามจุดต่าง ๆ ซึ่งบางคนพอมารับบัตร ณ จุดแจกแล้วก็ไม่ได้บัตรฯกลับไป อาจเป็นเพราะบัตรยังอยู่กับ ส.ส.ที่นำไปแจกในพื้นที่ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและวิพากษ์วิจารณ์กันไปว่า ทะเบียนราษฎรของกรุงเทพมหานครมีความสับสน ซึ่งตนขอเรียนว่ากทม.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องของการสำรวจทะเบียนราษฎรแต่อย่างใด
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครได้มีการประชุมคณะผู้บริหารประจำสัปดาห์และมีการนำเรื่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเข้าที่ประชุม ซึ่งตนเองก็รับอาสามาดำเนินการเนื่องจากเห็นว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมาก และเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่กทม. ดังนั้นกทม.จึงต้องอำนวยความสะดวกเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์เร็วที่สุดและดีที่สุด อย่างไรก็ดีหลังจากได้รับมอบหมายจากคณะผู้บริหารกทม.แล้ว ตนและคณะได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการพิจารณาเครือข่ายการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) เป็นประธาน และ นพ.อุดมศักดิ์ สังฆ์คุ้ม รองปลัดกรุงเทพมหานครเป็นผู้ประสานงานตั้งแต่ต้น ซึ่งบรรยากาศของการประชุมในครั้งนั้นเป็นไปด้วยดี และเป็นที่พอใจของกระทรวงสาธารณสุข โดยกทม.พร้อมให้ความช่วยเหลือและยินดีร่วมมือให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เป็นสถานที่ติดต่อและแจกบัตรทองแก่ประชาชน นอกจากนี้ยังพร้อมให้แพทย์ที่สังกัดโรงพยาบาลในพื้นที่มาร่วมแจกบัตรทองด้วย รวมทั้งได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งเพื่อประสานงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชน โดยมีตนเป็นที่ปรึกษา และมีอธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นพ.อุดมศักดิ์ สังฆ์คุ้ม รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการ
อย่างไรก็ดีตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า การแจกบัตรทองแก่ประชาชนควรจะเข้าระบบราชการมากกว่าการให้นักการเมืองนำไปแจก ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องของการเมือง และไม่ควรเอาข้าราชการประจำไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เรื่องนี้ควรเป็นเรื่องของฝ่ายข้าราชการประจำกระทรวงสาธารณสุขกับกทม.ที่ร่วมมือกัน และตนอยากจะเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมการแพทย์ มาร่วมกันแถลงข่าวในเรื่องด้วย--จบ--
-นห-