บล.โกลเบล็ก ลุ้นประมูล E-Auction รถไฟทางคู่ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 7.3 พันล. หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,565 – 1,600 จุด-สะสมหุ้นผลงานไตรมาส 2/60 เด่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 11, 2017 11:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยจับตาประมูล E-Auction รถไฟทางคู่ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 7.3 พันล้านบาท และการแจ้งงบไตรมาส 2/60 ของบริษัทจดทะเบียน บวกแนวโน้มราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังการประชุมกลุ่มโอเปกมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,565 – 1,600 จุด แนะสะสมหุ้นคาดงบไตรมาส 2/2560 เติบโตเด่น ชู LH-HARN-WICE-LIT-MGT ส่วนแนวโน้มราคาทองคำที่ปรับขึ้นในช่วงนี้แนะปรับกลยุทธ์ซื้อเก็งกำไร swing trade เน้น short น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดประมูลก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ต่อเนื่อง สัปดาห์นี้จะเปิดประมูลe-auction รถไฟทางคู่ (หัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์) และการคาดการณ์ว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.25% จนถึงปลายปีหลังตัวเลขเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง อีกทั้ง ราคาน้ำมันมีแนวโน้มรีบาวด์หลังการประชุมรัฐมนตรี 5 ชาติกลุ่มโอเปกมีสัญญาณที่ดี ไนจีเรียซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับยกเว้นจะเข้าร่วมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจากระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน และซาอุดิอาระเบียจะจำกัดการส่งออกน้ำมันไว้ที่ 6.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนปัจจัยที่มีผลลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ มาจาก IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP สหรัฐปี 2560 ลง 0.2% สู่ 2.1% และปี 2561 ลง 0.4% สู่ระดับ 2.1% เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ผ่านสภาคองเกรสได้หรือไม่ รวมถึง Fund Flow ต่างชาติผันผวนจาก FED จะเริ่มปรับลดงบดุลมูลค่า 4.5 ล้านล้านสหรัฐในปีนี้ และกังวลปัจจัยทางการเมืองสหรัฐจากการสืบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ และความกังวลปัญหา NPL ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ยังคงต้องจับตากำหนดประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 25 – 26 ก.ค. 60 ซึ่งจะรู้ผลเช้าวันที่ 27 ก.ค. 60 คาดว่าที่ประชุมน่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และวันที่ 27 ก.ค. 60 เปิดประมูล E-Auction รถไฟทางคู่เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 7.3 พันล้านบาท และในวันที่ 31 ก.ค. 60 ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย รวมถึงการทยอยประกาศงบไตรมาส 2/2560 ของบริษัทจดทะเบียนไปจนถึง 15 ส.ค.60 เป็นวันสุดท้าย ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีปัจจัยบวกจาก Sentiment เชิงบวกจากการประชุมรัฐมนตรีกลุ่มโอเปกที่ส่งสัญญาณการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน รวมถึงแรงซื้อดักงบไตรมาส 2/2560 ที่จะทยอยประกาศจนถึงกลางเดือนส.ค. อย่างไรก็ตาม ทิศทาง Fund Flow ต่างชาติที่ไม่ชัดเจน รวมถึงความกังวล NPL กลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้นจะเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,565 – 1,600 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อสะสมในกลุ่มหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 2/2560 จะเติบโต ได้แก่ LH, HARN, WICE, LIT และ MGT สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ข้อกล่าวหากรณีลูกเขยประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐฯแอบติดต่อทางลับกับรัสเซียเพื่อให้ได้ข้อมูลมาเอาชนะการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้น แม้มีการปฏิเสธโดยผู้ถูกกล่าวหาในชั้นสอบสวนของสภา แต่กระแสสั่นคลอนเก้าอี้ผู้นำยังคงอยู่ เพราะนโยบายที่เอื้อต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลงจากการไม่สามารถรวบรวมเสียงผู้สนับสนุนในพรรครีพับลิกันได้มากพอจะผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพ แสดงถึงความขัดแย้งกันภายในภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีผลไปถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่เขาเคยหาเสียงไว้ในอนาคตด้วย สำหรับประธาน ECB ที่เปรยอีกครั้งถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดวงเงิน QE เช่นเดียวกับคณะกรรมการบางส่วนใน BOJ ที่มีการหารือถึงเรื่องดังกล่าวนี้เช่นกัน ยิ่งทำให้เงินดอลลาร์ถูกกดดันให้อ่อนค่า เป็นแรงหนุนต่อสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยชี้วัดในสัปดาห์นี้อยู่ที่ถ้อยแถลงของประธาน Fed ที่นักลงทุนต่างคาดหวังการชี้ชัดถึงช่วงเวลาในการเริ่มต้นกระบวนการปรับลดงบดุลลง ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น ถูกคาดหมายไว้แล้วว่าจะมีการคงไว้ที่ระดับเดิมต่อไปตามอัตราเงินเฟ้อที่ยังขยายตัวไม่แข็งแกร่งนัก ส่งผลให้ราคาทองคำที่ได้รับปัจจัยบวกทั้งหมดข้างต้นทะยานบวกขึ้นด้วยแรงส่งของเงินดอลลาร์ที่อ่อนแรงและเงินยูโรที่แข็งค่า แต่ปัจจัยบวกเฉพาะตัวที่มีผลต่อราคาทองคำโดยตรงนั้นยังไม่มี ทั้งนี้ การปรับขึ้นของราคาทองคำยังเป็นโอกาสให้ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอย่างกองทุน SPDR เทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น นักลงทุนที่ถือสถานะ long จึงควรแบ่งขายทำกำไร และถ้าราคาตลาดโลกหลุดระดับ 1,240–1,245 ดอลลาร์ ควรปิดสถานะ long ทั้งหมด แล้วปรับกลยุทธ์มาเล่นเก็งกำไรแบบ swing trade โดยเน้น short แทน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ