กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,274.36-1,277.98 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 20,220 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,150 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.06น. ของวันที่ 31/10/60)
แนวโน้มวันที่ 01 พฤศจิกายน 2560
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางสหรัฐสอบสวนการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งสหรัฐปี 2559 จนนำไปสู่การตั้งข้อหาฟอกเงินต่อนายพอล มานาฟอร์ต ซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และนายริค เกตส์ อดีตผู้ร่วมธุรกิจ ตามข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนของนายโรเบิร์ต มึลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ความผันผวนทางการเมืองของสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้นกดดันดอลลาร์และหนุนราคาทองคำ นอกจากนี้ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันเพิ่มจากท่าทีของ ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะเลือกนายเจอโรม พาวเวล ซึ่งเป็นผู้ว่าการคนหนึ่งในเฟด ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งนักลงทุนมองว่า นายพาวเวลมีแนวคิดแบบสายพิราบมากกว่าตัวเก็งคนอื่นๆ ทั้งนี้ทองคำอาจได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม หากตลาดหุ้นเผชิญแรงเทขายออกมา จากความผิดหวังมาตรการปรับลดภาษีของ ปธน.ทรัมป์ โดยบลูมเบิร์ก รายงานว่า สภาผู้แทนฯ สหรัฐกำลังพิจารณาการปรับลดภาษีนิติบุคคลลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงสู่ 20% จากเดิมที่ 35% อาจจะต้องใช้เวลาหลายปีในการทยอยปรับลดภาษีลง ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงกันเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งก่อนหน้านี้ นายเควิน เบรดี ประธานคณะกรรมาธิการจัดสรรงบประมาณประจำสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า วางแผนจะเสนอร่างกฎหมายภาษีในวันพุธที่ 1 พ.ย. และคณะกรรมาธิการจะเริ่มต้นพิจารณาร่างกฎหมายนี้ในวันที่ 6 พ.ย. เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากสามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำระยะสั้นมีการแกว่งตัวในกรอบ โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,282-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,260 (19,750บาท) 1,249 (19,600บาท) 1,237 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,288 (20,250บาท) 1,296 (20,350บาท) 1,307 (20,550บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,260 (19,970บาท) 1,249 (19,800บาท) 1,237 (19,610บาท)
แนวต้าน 1,288 (20,420บาท) 1,296 (20,540บาท) 1,307 (20,720บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999