สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 06 พฤศจิกายน 2560 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 6, 2017 16:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส สภาวะตลาดวันที่ 06 พฤศจิกายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,266.01-1,271.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 20,080 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,140 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.16น. ของวันที่ 06/11/60) แนวโน้มวันที่ 07 พฤศจิกายน 2560 การเดินทางเยือนเอเชียเป็นเวลา 12 วัน ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตา เพื่อใช้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาทองคำ แม้ว่าปธน.ทรัมป์ได้แสดงความเห็นแบบแข็งกร้าวเรื่องเกาหลีเหนือในขณะที่เขาเริ่มการเดินทางไปญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามปธน.ทรัมป์ต้องการความเห็นพ้องกับผู้นำของเกาหลีใต้ เป็นเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อเสนอต่อประธานาธิบดีสี่ จิ้นผิงของจีน เพื่อจะสามารถดำเนินมาตรการที่กดดันมากยิ่งขึ้นในการควบคุมเกาหลีเหนือ รวมทั้งปธน.ทรัมป์ยังมีแผนที่จะพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียในระหว่างการเยือนภูมิภาคเอเชียครั้งนี้ด้วย นอกจากประเด็นความขัดแย้งบริเวณคาบสมุทรเกาหลี นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่ประเด็นการกีดกันทางการค้า ซึ่ง ปธน.ทรัมป์กล่าวในช่วงเริ่มต้นการประชุมกับผู้นำธุรกิจของญี่ปุ่นและสหรัฐว่า "สหรัฐขาดดุลการค้าให้ญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา" ในเบื้องต้นรัฐบาลญี่ปุ่นคัดค้านข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ให้หารือเรื่องการทำข้อตกลงการค้าเสรี(FTA)แบบทวิภาคี ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมสุดยอดของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปก) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองดานังในเวียดนาม โดยปธน.ทรัมป์ จะเข้าร่วมกล่าวสนับสนุนการเปิดเสรีในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และสิ่งนี้จะถือเป็นการตอบโต้ต่อนโยบายขยายอิทธิพลของจีน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำขยับขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐชุดล่าสุด ช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. 2560 เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,279 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับที่ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัว และพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,279-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนเมื่อราคาตั้งฐานได้อีกครั้ง ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,263 (19,800บาท) 1,254 (19,650บาท) 1,245 (19,500บาท) แนวต้าน 1,279 (20,050บาท) 1,288 (20,200บาท) 1,296 (20,350บาท) GOLD FUTURES (GFZ17) แนวรับ 1,263 (19,950บาท) 1,254 (19,810บาท) 1,245 (19,670บาท) แนวต้าน 1,279 (20,210บาท) 1,288 (20,350บาท) 1,296 (20,480บาท)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ