จากผู้ริเริ่มการกระจายการศึกษาไทยสู่การเปิด “ทุนบุญชู ตรีทอง” เพื่อการเป็น “ผู้ให้” ทางการศึกษาด้วยความหวังเดียวคือเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

ข่าวทั่วไป Monday January 8, 2018 10:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์ "ฐานรากการศึกษา ถือเป็นประเด็นสำคัญที่สังคมต่างให้ความสนใจและจับตามองในทุกยุคสมัย เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งในการช่วยส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในประเทศ ให้พร้อมด้วยทักษะความรู้ในการประกอบอาชีพ รวมถึงการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีนโยบายในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อให้บุคลากรมีความรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ ซึ่งในอดีตจะเห็นได้ว่ามีนโยบายการศึกษา ที่เน้นผู้เรียนเป็นสูญกลาง และล่าสุดกับการปลูกฝังให้มีทักษะความคิดเชิงวิพากษ์ มีพื้นฐานความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้สามารถคิดและพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สังคม ตามกรอบนโยบายไทยแลนด์ 4.0 แต่ทว่ามีหลากหลายความเห็นสะท้อนมาว่า เป้าหมายที่ต้องการกับความเป็นจริงนั้น สวนทางกันโดยสิ้นเชิง ฉะนั้นแล้ว แก่นแท้ของระบบการศึกษาไทยที่ดีและมีคุณภาพ ควรพัฒนาไปในทิศทางไหน และอะไรคือสิ่งที่สังคมต้องการ" นายบุญชู ตรีทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำปาง กล่าวว่า ในอดีตระบบการศึกษาไทย มหาวิทยาลัยคุณภาพในพื้นที่ภาคเหนือมีเพียง 3 แห่ง และสามารถรองรับนักศึกษาได้ประมาณ 1.2 แสนราย แต่กลับสวนทางกับจำนวนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในพื้นที่ ที่มีจำนวนสูงถึง 1.7 แสนราย ขณะที่มหาวิทยาลัยของรัฐมีอยู่ 23 แห่ง (ไม่นับมหาวิทยาลัยราชภัฎ เนื่องจากขณะนั้นยังไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัย) ดังนั้น สถาบันการศึกษาในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องอาศัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference) มาเป็นผู้ช่วยในการจัดการเรียนการสอน ประกอบกับองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ และนวัตกรรมต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในแง่มุมต่างๆ ทั้งการมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิพากษ์ (Critical Thinking) การคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่สามารถต่อยอดได้เชิงพาณิชย์ ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ฉะนั้น ขณะที่ยังดำรงตำแหน่ง รมต.ทบวงมหาวิทยาลัย จึงได้เร่งเสนอนโยบายขยายโอกาสทางการศึกษาคุณภาพสู่ภูมิภาคต่อคณะรัฐมนตรี โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่แข็งแกร่งทางวิชาการ 6 มหาวิทยาลัย ขยายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาไปสู่ภูมิภาคจำนวน 36 จังหวัด ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติจำนวนทั้งสิ้น 31 จังหวัด "เพราะการลงทุนกับตัวบุคคลนั้นเป็นสิ่งยั่งยืนยิ่งกว่า เป็นเพราะการกระจายความรู้สู่เมล็ดพันธุ์ที่ในพื้นที่ที่ห่างไกล ย่อมได้ผลผลิตคุณภาพที่ทวีคูณ ตนในฐานะเด็กนักเรียนต่างจังหวัด (แม่ฮ่องสอน) ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสที่ดีด้านการศึกษา จึงทำให้สามารถสอบชิงทุนเข้าศึกษาต่อในกรุงเทพฯ และมีคุณภาพชีวิต รวมถึงหน้าที่การงานที่มั่นคงอย่างในปัจจุบัน" นายบุญชู กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่ปี 2535 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินการขยายการศึกษาสู่ภูมิภาค ณ จังหวัดลำปาง ด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพและการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาการศึกษาในเขตภาคเหนือ ซึ่งในระยะแรกได้เปิดสอนในหลักสูตรด้านสังคมศาสตร์ ระดับปริญญาโท ที่ศาลากลาง จังหวัดลำปาง (หลังเดิม) แต่ต่อมา มธ. มีความจำเป็นในการจัดหาพื้นที่ก่อสร้างอาคารเรียนถาวรเพื่อรองรับการเรียนการสอน ตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำปางในสมัยนั้น จึงร่วมอนุเคราะห์ที่ดินกว่า 364 ไร่ อีกทั้งบริจาคทุนทรัพย์รวมกว่า 62 ล้านบาท เพื่อจัดสร้างเป็นอาคาร 'สิรินธรารัตน์' อาคารเรียนรวมหลังแรก สำหรับเป็นสำนักงานในการบริหารจัดการ และจัดการเรียนการสอน แต่ทั้งนี้ ในระยะแรกของการจัดการเรียนการสอนเพียงหลักสูตรสังคมศาสตร์ ตนพิจารณาว่าไม่สามารถกระตุ้นความตื่นตัวของคนในท้องถิ่นได้ อีกทั้งเล็งเห็นถึงความสำคัญของพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่มีส่วนสนับสนุนให้คนท้องถิ่นมีความรู้ที่เท่าทันเทคโนโลยี ตลอดจนการติดต่อซื้อขายระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ อินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ (IoT) การสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (Internet Banking) ที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนในธุรกิจการเงินได้อย่างแนบเนียน ฯลฯ จึงนำไปสู่การขยายหลักสูตรด้านวิทยาศาสตร์ ณ มธ.ศูนย์ลำปาง ผ่านการจัดตั้ง 'คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี' ในหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ สาขาเทคโนโลยีการเรียนรู้ เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับความสามารถในการผลิตนวัตกรรมตอบโจทย์ท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม นายบุญชู กล่าว อย่างไรก็ดี เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เชี่ยวชาญขั้นสูงสุด จึงได้มอบ "ทุนบุญชู ตรีทอง" ทุนสนับสนุนการศึกษาแบบให้เปล่าแก่นักเรียนในพื้นที่ 17 จังหวัด ที่สนใจที่ศึกษาต่อในหลักสูตรดังกล่าว ทันทีเมื่อแรกเข้า และพร้อมสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษา กรณีที่นักศึกษาสามารถรักษามาตรฐานผลการศึกษาได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด นอกจากนี้ ยังสนับสนุนต่อเนื่องหากนักศึกษาสนใจศึกษาต่อระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสโลกแห่งการเรียนรู้ที่กว้างขึ้น และเก็บเกี่ยวทุกองค์ความรู้ที่ได้กลับมาต่อยอดและพัฒนาประเทศในแง่มุมต่างๆ ตลอดจนสามารถกระจายความรู้สู่บุคคลอื่นได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ได้ให้การส่งเสริมบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญการศึกษาขั้นสูงสุด จำนวนรวมทั้งสิ้น 23 คน นายบุญชู กล่าวทิ้งท้าย สำหรับผู้สนใจสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและสมัครออนไลน์ได้ที่ www.reg.tu.ac.th ในรอบโควต้าพื้นที่ ระหว่างวันที่ 15-31 มกราคม 2561 และรอบแอดมิชชั่นกลาง ระหว่างวันที่ 6-10 มิถุนายน 2560 สอบถามเพิ่มเติม ฝ่ายรับเข้าศึกษา 02-564-4441-79 ต่อ 1634-1638 เว็บไซต์ www.lampang.tu.ac.th, www.tuadmissions.in.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ