อยากเลี้ยง “แมวสฟิงซ์” ต้องรู้อะไรบ้าง?

ข่าวทั่วไป Thursday April 5, 2018 15:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--โมเดิร์นเทียร์ สำหรับสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ อย่างน้องแมว ใครๆ ก็อยากเลี้ยงกัน จริงไหมคะ? โดยเฉพาะแมวสายพันธุ์ที่ดูแปลกตาอย่าง แมวสฟิงซ์ หรือ แมวไร้ขน ที่เริ่มได้รับความนิยมในบ้านเรามากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลและเตรียมจะเลี้ยงน้องแมวพันธุ์นี้กันอยู่ล่ะก็ วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับน้อง แมวสฟิงซ์ มาฝากกันค่ะ ลักษณะเด่นของแมวสฟิงซ์ สำหรับน้องแมวสฟิงซ์นี้ ถือเป็นแมวที่มีขนเล็กและสั้นมาก จนเรียกว่าเป็นแมวไม่มีขนเลยก็ว่าได้ ดวงตาส่วนใหญ่จะสีอำพันสวย ลำตัวยาว ปลายหางเรียว หัวคล้ายลิ่ม และมีหูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายกลมๆ ชัดเจนทั้ง 2 ข้างเลยล่ะค่ะ น้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 – 7 กิโลกรัม และมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 15 ปี นิสัยที่ไม่เหมือนใคร น้องแมวสฟิงซ์แม้ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย แต่ก็ถือว่าเป็นแมวสายพันธุ์ที่เป็นมิตรกับเจ้าของสุดๆ รักเจ้าของมากๆ เชื่อฟัง และเมื่อเจอคนแปลกหน้าก็ยังเป็นมิตรมากกว่าแมวอื่นๆ ทั่วไป นิสัยปกติก็จะขี้อ้อน ขี้ประจบ เวลาต้องการเรียกเจ้าของ หรือเรียกร้องความสนใจ ก็จะร้องออกมาเบาๆ ที่อาจจะดูแหบๆ แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบเฉพาะตัว แถมยังเป็นแมวพันธุ์ที่ได้ชื่อว่าฉลาดสุดๆ เลยล่ะค่ะ เพราะสามารถสอนด้วยคำสั่งเสียง และฝึกให้เคยชินกับสายจูงได้ การดูแลน้องแมวสฟิงซ์ ถึงแม้เรื่องการไร้ขนของน้องแมวพันธุ์นี้ จะเป็นข้อดีที่เราไม่ต้องดูแลเรื่องขนของมันมากเหมือนแมว ทั่วไป แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยปละละเลยได้ เพราะการที่น้องแมวสฟิงซ์ไม่มีขน ทำให้ผิวหนังของมันผลิตน้ำมันขึ้นมาเคลือบผิวเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อปกป้องผิวของมัน รู้แบบนี้แล้วผู้เลี้ยงจึงต้องคอยอาบน้ำให้น้องแมวสฟิงซ์เป็นประจำ เพื่อความสะอาดและช่วยลดการระคายเคืองของผิวหนัง นอกจากนี้ หากจำเป็นต้องพาไปออกแดดแรงๆ ควรทาครีมกันแดดสูตรสำหรับเด็กทารก หรือสูตรเฉพาะที่ใช้กับผิวแมวได้ เพราะการที่ไม่มีขน ทำให้ผิวถูกแดดทำร้ายเอาได้ง่ายๆ การทาครีมกันไว้ จึงช่วยปกป้องไม่ให้ผิวถูกแดดทำร้ายมากจนเกินไป ส่วนเรื่องอาหารการกิน น้องแมวพันธุ์นี้จะกินเยอะกว่าแมวทั่วไปนิดนึงนะคะ วันละประมาณ 2 รอบ หรือ 2 รอบครึ่ง เพื่อเพิ่มความร้อนในร่างกาย และอาหารของแมวพันธุ์นี้ ควรเป็นเนื้อที่มีคุณภาพดี ถ้าเป็นมือใหม่ ยังไม่มั่นใจ แนะนำให้ลองปรึกษาคนขายอาหารก่อน ว่านำไปเลี้ยงน้องแมวสฟิงซ์จะได้เลือกเมนูที่เหมาะกับพันธุ์และเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมว และสุดท้าย สำหรับสิ่งของที่จะช่วยให้น้องแมวพันธุ์นี้มีความสุขยิ่งขึ้น ผู้เลี้ยงควรหาของเล่นมาให้เล่นเพื่อความผ่อนคลาย เช่น หอคอยแมว เสาไม้สำหรับให้น้องแมวได้ขูดเล็บ และควรมีพื้นที่ให้น้องแมวได้วิ่งเล่นซักนิด อีกข้อที่ขาดไม่ได้คือ จานข้าว กับกระบะทรายสำหรับขับถ่าย แค่นี้ก็พร้อมครบสูตรสำหรับเลี้ยงน้องแมวพันธุ์นี้กันแล้วล่ะค่ะ ถ้าใครกำลังสนใจเลี้ยงน้องแมวสฟิงซ์ ลองมาทำความรู้จัก และสัมผัสตัวเป็นๆ ที่สุดแสนจะน่ารักและขี้อ้อนสุดๆ พร้อมฟังคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงที่ถูกวิธีจากผู้เชี่ยวชาญ หรือหากใครที่เลี้ยงอยู่แล้ว ก็สามารถมาหาซื้อของใช้สำหรับน้องแมวสฟิงซ์ ได้ที่งาน Pet Expo Thailand 2018 นะคะ มีทั้งทั้งสินค้าและบริการหลากหลาย พร้อมโปรโมชั่นพิเศษแบบจัดเต็มมากๆ ระหว่างวันที่ 31 พ.ค - 3 มิ.ย 2561 ตั้งแต่เวลา 10:00 - 20:00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โซน C ชั้น 1-2 , โซนพลาซ่า และโซนเอเทรียม สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02-203-4216 หรือแวะเข้ามาหาเราที่เว็บ www.petexpothailand.net หรือทาง FaceBook : PetExpoClub ได้เลยจ้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ