ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวดีขึ้น สูงสุดในรอบ 6 เดือน

ข่าวทั่วไป Tuesday December 18, 2007 12:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--ส.อ.ท.
ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวดีขึ้น สูงสุดในรอบ 6 เดือน ผู้ประกอบการเชื่อความชัดเจนทางการเมืองคือปัจจัยสำคัญที่จะฟื้นระดับความเชื่อมั่นได้เร็วและมากที่สุด แนะรัฐปรับลดราคาค่าน้ำมัน ดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมและโปร่งใส
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย (Thai Industries Sentiment Index: TISI) ในเดือนพฤศจิกายน 2550 ที่ได้จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 529 ตัวอย่าง ครอบคลุม 35 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมฯ ว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 82.3 จาก 81.9 ในเดือนตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา ดัชนีฯในเดือนพฤศจิกายนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยได้รับอานิสงค์จากความหวังในการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นจากการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ทำให้คาดว่ายอดคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศจะดีขึ้น นอกจากนี้ ภาวะตลาดส่งออกที่สำคัญ (ยกเว้นสหรัฐอเมริกา) ยังขยายตัวดี โดยเฉพาะตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง จีน ออสเตรเลีย อินเดีย เวียดนาม ทำให้คาดว่ายอดคำสั่งซื้อและยอดขายในต่างประเทศยังจะไปได้ดี ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการก็มิได้ปรับเพิ่มสูงขึ้น แม้ยอดคำสั่งซื้อและยอดขายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงปริมาณการผลิตปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากถูกกระทบจากราคาน้ำมันและราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนการประกอบการเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งได้กดดันให้ผู้ประกอบการเริ่มมีการขยับขึ้นราคาขายบางส่วนแล้ว
ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ เท่ากับ 93.5 มีค่าต่ำกว่า 100 เช่นกัน แสดงถึงความเชื่อมั่นคาดการณ์ล่วงหน้า 3 เดือน ของผู้ประกอบการต่อภาพรวมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มดีขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2550 แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่แข็งแกร่งนัก ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากภาพการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งจะมีผลต่อนโยบายต่างๆที่จะนำมาใช้แก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ แม้การกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ได้สร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองให้ดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการยังถูกกระทบจากปัจจัยเสี่ยงด้านราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐฯมีความเสี่ยงในการชะลอตัวจากปัญหา Sub prime แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯได้ประกาศลดดอกเบี้ยและผ่อนคลายนโยบายสินเชื่อแล้วก็ตาม
เมื่อเปรียบเทียบกับค่าดัชนีฯ คาดการณ์ล่วงหน้า 3 เดือน ในเดือนตุลาคม 2550 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 96.1 พบว่าความเชื่อมั่นภาคออุตสาหกรรมคาดการณ์ฯ อ่อนตัวลงมา ซึ่งถูกกระทบจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับยอดขายในประเทศใน 3 เดือนข้างหน้าที่คาดว่าจะฟื้นตัวไม่แข็งแกร่งนัก เนื่องจากยังไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ส่งผลต่อเนื่องถึงความเชื่อมั่นในการผลิต อีกทั้งผลประกอบการยังอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนการประกอบการที่อาจปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจัยเสี่ยงด้านราคาน้ำมันที่ผันผวนในทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อพิจารณาสภาพแวดล้อมภายนอกกิจการ ผู้ประกอบการต่างเชื่อมั่นต่อปัจจัยต่างๆ ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ได้แก่ ราคาน้ำมัน เป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการกังวลมากที่สุด เศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาทจะกระทบน้อยลง ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในประเทศจะยังไม่ส่งผลกระทบในช่วง 3 เดือนนี้ และการเมืองจะคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ผู้ประกอบการก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ทั้งนี้ปัจจัยที่จะฟื้นระดับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมได้เร็วและมากที่สุด คือ ความชัดเจนเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมือง
ด้านข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต่อภาครัฐ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ปรับลดราคาค่าน้ำมัน สร้างความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายพลังงานในระยะยาว ดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมและปร่งใส กระตุ้นเศรษฐกิจให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เร่งสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนเพื่อที่จะดึงดูดนักลงจากต่างประเทศให้มาลงทุนที่ประเทศไทย ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และราคาค่าขนส่ง เร่งพัฒนาผลิตบุคคลากรตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมนโยบายการใช้แรงงานต่างด้าว ลดอัตราดอกเบี้ยลง เร่งแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ และช่วยเหลือ SMEs อย่างจริงจัง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โทร. 0-2345-1017 โทรสาร 0-2345-1295-9

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ