ASAP ปรับเป้ารายได้เพิ่มเป็น 30% รับการเปิด asap Auto Park ชี้ความต้องการใช้บริการรถยนต์เช่าในไทยเพิ่ม หนุนทุกกลุ่มเติบโตตามแผน

ข่าวยานยนต์ Monday September 3, 2018 16:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย 'ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์' หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) ประกาศปรับเป้ารายได้รวมปีนี้เพิ่มเป็น 30% รับ asap Auto Park เป็นแรงหนุนสำคัญที่มีผลต่อการผลักดันการเติบโต ขณะที่กลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่ายังเติบโตแรงจากการขยายฐานลูกค้ารายใหม่และการขยายจุดให้บริการเพิ่มเติม แถมได้รับปัจจัยบวกจากราคาจำหน่ายตลาดรถมือสองดันอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดี นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ประกาศปรับแผนการเติบโตของการดำเนินงานในปีนี้โดยเพิ่มเป็นหลายรายได้เติบโตเป็น 30% จากเดิมที่จะเติบโต 20% โดยได้ปรับเพิ่มพอร์ตรถยนต์ใหม่ในปีนี้เพิ่มเป็น 5,000 คัน จากเดิม 4,000 คัน หลังบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าองค์กรรายใหม่ๆ รวมถึงฐานลูกค้าเดิมต่อสัญญาการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่ารายชั่วโมงภายใต้แบรนด์ asap GO มีสัญญาณเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน หลังจากขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าทั่วไปและเพิ่มจุดจอดรถเพื่อให้บริการเพิ่มเติมตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ สถาบันการเงิน และโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ทำให้อัตราการใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดให้บริการ asap Auto Park เฟส 1 ที่ถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นจุดจอดรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและจุดจำหน่ายรถยนต์ครบสัญญาเช่าที่คาดว่าในครึ่งปีหลังจะมีกว่า 700-800 คัน ที่ปัจจุบันจะได้รับผลดีจากแนวโน้มราคาจำหน่ายรถยนต์มือสองปรับตัวดีขึ้นและสามารถทำกำไรขั้นต้นต่อหน่วยที่ดีขึ้น จะเข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2561) ASAP ทำรายได้รวม 1,248.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.77% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีกำไรสุทธิ 69.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.04% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยมาจากความสำเร็จในการทำตลาดรถยนต์ให้เช่าในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งรถยนต์ให้เช่าระยะยาว รถยนต์ให้เช่าระยะสั้น รถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ รถยนต์ให้เช่ารายชั่วโมงที่เติบโตได้ดี จากปริมาณความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ