นิสสัน ลีฟ ผจญภัยงข้ามทวีประยะทางกว่า 16,000 กม.

ข่าวยานยนต์ Monday September 17, 2018 12:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ นักผจญภัย มาเร็ค คามินสกี (Marek Kaminski) เดินทางมาจากโปแลนด์มาถึงญี่ปุ่นเป็นระยะทาง 16,000 กิโลเมตร ด้วยนิสสัน ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้า 100% นักสำรวจขั้วโลก มาเร็ค คามินสกี เดินทางด้วยระยะทางกว่า 16,000 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้นที่ตั้งชื่อว่า #NoTraceExpedition ในโปแลนด์เมื่อสามเดือนก่อนเพื่อออกเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นด้วยนิสสัน ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในยุโรป การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ คามินสกี เริ่มจากเมืองซาโคปาเน (Zakopane) ประเทศโปแลนด์ผ่าน 8 ประเทศในสองทวีปด้วยสภาพเส้นทางที่หลายรูปแบบของ ประเทศลิธัวเนีย เบลารุส รัสเซีย มองโกเลีย จีนและเกาหลีใต้ โดยมีจุดหมายคือกรุงโตเกียว เสน่ห์ของ การไม่ทิ้งร่องรอยไว้ หรือ "No trace Left Behind" ของการผจญภัยในกิจกรรม #NoTraceExpedition การเดินทางโดยไม่สร้างมลภาวะใดๆ เลย เป็นตัวอย่างให้นักสำรวจที่ไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม คามินสกี คือมนุษย์คนแรกที่เดินทางไปจากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ภายใน1 ปี การผจญภัยที่น่าประทับใจของคามินสกี คือการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าผ่านสภาพเส้นทางทุระกันดารในมองโกเลียตลอดจนถึงการที่ต้องชาร์จไฟด้วยวิธีสร้างสรรค์ในรัชเซีย หลักจากสำเร็จภาระกิจกับระยะทาง 16,000 กิโลเมตรแรกแล้ว คามินสกีได้เริ่มออกเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นสู่ประเทศโปแลนด์ด้วยรถยนต์คันเดิม "สำหรับผมแล้ว การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไปถึงจุดหมายปลายทางเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องที่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เรียบง่ายแต่ยั่งยืน" คามินสกีกล่าว "ไม่ว่าจะเป็นในป่าของประเทศรัสเซีย หรือถนนที่ทุรกันดารของประเทศมองโกเลีย หรือ ในถนนที่พลุกพล่านของกรุงโตเกียว นิสสัน ลีฟ เป็นคู่หูของการเดินทางที่ไว้วางใจได้ตลอด ด้วยคุณสมบัติต่างๆของรถ เช่น เทคโนโลยี ProPILOT ที่มีความสามารถในการขับขี่ในสภาวะต่างๆได้เป็นอย่างดี แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ที่มีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานน้อย เราสามาถชาร์จลีฟของเราได้ตลอดการเดินทาง และลีฟ ทำให้เราเดินทางอย่างไร้มลพิษตลอดเส้นทาง และผมหวังการเดินทางครั้งนี้จะเป็นขั้นต่อไปของการผจญภัยที่อย่างยั่งยืน" เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้ เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.OV.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.6 ล้านคันในปี 2560 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ