“FinTech Challenge 2018: The Discovery” วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2561 เวลา 11.00 – 11.30 น. หัวข้อ “Demystifying the Future of Tokenization”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 7, 2018 17:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ก.ล.ต. ผู้ร่วมเสวนา: ดร. การดี เลียวไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ICORA นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Bitkub นายวัชระ เอมวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารร่วม SIX Network สินทรัพย์ในรูปแบบดิจิทัลโทเคน (asset tokenization) คุณจิรายุส กล่าวว่า อินเทอร์เน็ตได้ก่อให้เกิดความสามารถในการแบ่งปันข้อมูลโดยการสร้างสำเนาของข้อมูลเพิ่มได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีบล็อกเชนได้สร้าง digital scarcity หรือการที่ข้อมูลมีอยู่ในจำนวนจำกัด ทำให้ข้อมูลนั้นมีมูลค่าในตัวเอง และสามารถส่งข้อมูลที่มีมูลค่าให้กับผู้อื่นได้โดยที่ข้อมูลไม่ถูกเก็บเป็นสำเนาเพิ่มอีก ด้วยคุณลักษณะดังกล่าวของบล็อกเชนทำให้เราสามารถนำทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น เพชร ทองคำ ตึก หรือแม้กระทั่งหลักทรัพย์ มาอยู่ในรูปแบบของสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้ไม่ต่างจากการส่งไฟล์ แต่จะมีเพียงฉบับเดียว นอกจากสินทรัพย์ที่จับต้องได้แล้ว ทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตนอย่าง ทรัพย์สินทางปัญญา หรือชื่อเสียงของบุคคล ก็สามารถนำมาแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าได้เช่นกัน คุณวัชระ เสริมว่าสิ่งที่ตามมาจากการแปลงสินทรัพย์มาอยู่บนบล็อกเชน คือเศรษฐกิจของโทเคน (token economy) ปัจจุบันมีโครงการระดมทุนด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัล หรือไอซีโอ มากมายที่พยายามจะนำสินทรัพย์หลากหลายประเภทมาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่น โครงการของ SIX Network ที่อยากจะนำลิขสิทธิ์ของผลงานเพลง หนัง การ์ตูน งานเขียน มาบันทึกในระบบบล็อกเชน ซึ่งจะทำให้ทรัพย์สินเหล่านี้สามารถนำมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้โดยไม่ต้องมีตัวกลางอีกต่อไป ดร. การดี ให้ความเห็นว่าบล็อกเชนทำให้เกิดยุคของ internet of value และคุณสมบัติสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก คือ ความสามารถในการแบ่งหน่วยย่อยของสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้สามารถนำสินทรัพย์ขนาดใหญ่มาแบ่งเป็นหน่วยเล็ก ๆ ได้ เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เคยเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้มีทางเลือกมากขึ้น และช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่ตัวกลางมีบทบาทลดลง ความท้าทายและปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมการไปสู่เศรษฐกิจของโทเคนดิจิทัล คุณวัชระ กล่าวว่า มีปัจจัยหลักสามด้าน ได้แก่ (1) กฎหมายกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น กลไกการแสดงสิทธิ การนำไปใช้ในการค้ำประกัน เป็นต้น ซึ่งการเปิดให้สามารถทำได้ในกรอบของแซนบอกซ์อาจจะช่วยได้ (2) ความง่ายในการนำไปใช้ ซึ่งยังเป็นความท้าทายเพราะการที่จะให้คนทำความเข้าใจและคุ้นเคยกับการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตนเองไม่ใช่เรื่องง่าย และ (3) เศรษฐกิจของโทเคนที่มีคนเข้ามามีส่วนร่วมเพียงพอที่จะทำให้เกิดสภาพคล่องได้ คุณจิรายุ เห็นว่า การที่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลจะเกิดได้นั้น ในระยะแรกจะต้องมีผู้ที่ทำหน้าที่เป็นสะพานระหว่างโลกเก่ากับโลกใหม่ ซึ่งศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหนึ่งในสะพานที่จะช่วยให้คนสามารถแลกสกุลเงินทั่วไปเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยง่าย ในขณะเดียวกันจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ รวามทั้งทำหน้าที่สอดส่องดูแลในเรื่องของการป้องกันการฟอกเงินด้วย ในอนาคตเมื่อสินทรัพย์ดิจิทัลมีความแพร่หลาย การแลกเปลี่ยนมูลค่าจะทำได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยตัวกลาง ดร. การดี กล่าวว่า กฎระเบียบจะต้องมีการปรับเปลี่ยน เพราะนี่เป็นโลกใหม่ สิ่งที่สำคัญในการปกป้องผู้ลงทุนคือการสร้างความรู้ความเข้าใจ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนต้องเปิดใจศึกษาข้อมูล ช่วยกันแบ่งปันข้อมูลและเตือนซึ่งกันและกัน ไม่ให้ถูกหลอกลวงได้ง่าย โดยสรุปผู้ร่วมเสวนาเห็นพ้องกันว่า บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาปฏิวัติการดำเนินชีวิตของทุกคน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ และเป็นโอกาสของคนไทยที่จะผันตัวเองมาเป็นผู้สร้างเทคโนโลยี เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศได้ ทั้งนี้ เทคโนโลยีใหม่นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและมีบูรณาการกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เปิดกว้าง เท่าทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ