ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันสกุลเงินบาทของอีซี่บาย ที่ 'AA+(tha)’

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 22, 2019 17:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่จะออกโดย บริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) (EB; 'AA+(tha)'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 3 ปี และวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้คือเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการของบริษัทและชำระคืนเงินกู้ยืม ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต อันดับเครดิตของหุ้นกู้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB ที่ 'AA+(tha)' เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท อันดับเครดิตของ EB มีปัจจัยในการพิจารณาหลักมาจากความเห็นของฟิทช์ที่มองว่า EB มีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อบริษัทแม่ ซึ่งคือ ACOM CO., LTD. (ACOM; A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) จากประเทศญี่ปุ่น โดย ACOM มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 71% ใน EB และยังมีอำนาจควบคุมการบริหารงานในบริษัทลูก นอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและเกื้อหนุนกัน (synergy) ระหว่าง EB และบริษัทแม่ รวมทั้งบริษัทแม่ยังมีการให้ความสนับสนุนทางการเงินและการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB จะส่งผลกระทบไปในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตของหุ้นกู้ อันดับเครดิตภายในประเทศของ EB อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตของ ACOM ซึ่งจะสะท้อนถึงการที่ความสามารถในให้การสนับสนุนของ ACOM ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ฟิทช์อันดับเครดิตของ EB อาจได้รับผลกระทบในกรณีที่ฟิทช์เชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงในโอกาสที่ ACOM จะให้การสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติแก่ EB ตัวอย่างเช่น ฟิทช์อาจทำการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ EB หากบริษัทมีบทบาทที่สำคัญต่อบริษัทแม่เพิ่มขึ้นจนสามารถมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญของบริษัทแม่ (core subsidiary) ได้ ในทางกลับกันฟิทช์อาจทำการปรับลดอันดับเครดิตของ EB หากบริษัทแม่ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงอย่างมีนัยสำคัญหรือมีระดับการให้การสนับสนุนทางการเงินที่ลดลง อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ