สหมงคลฟิล์ม ภูมิใจเสนอภาพยนตร์เรื่อง น ร ก (H E L L)

ข่าวทั่วไป Tuesday June 7, 2005 13:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
น ร ก (H E L L)
กำหนดการเข้าฉาย 23 มิถุนายน 2548
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมการสร้าง ธนิตย์ จิตนุกูล
กำกับภาพยนตร์ ฑีฆายุ ธรรมนิตยกุล ( ผู้กำกับศิลป์ ภาพยนตร์เรื่อง รักเอย, เสือโจรพันธุ์เสือสวัสดีบ้านนอก ออกแบบงานสร้าง ภาพยนตร์เรื่อง 14 ตุลาฯ,ขุนแผน )
สาธิต ประดิษฐ์สาร (ผู้กำกับศิลป์ ภาพยนตร์เรื่อง รักเอย, เสือโจรพันธุ์ เสือ, สวัสดีบ้านนอก, โกซิก, ผีสามบาท, ขุนแผน ออกแบบงานสร้าง ภาพยนตร์เรื่อง ชุมเสือแดนสิงห์ ตอน กระตุกติ่งเจ้าพ่อ)
บทภาพยนตร์
มาริสา มัลลิกะมาลย์ และทีมงานโหม่งโลก
กำกับภาพ
เกรียงศักดิ์ สุขพันธ์ (ผู้ช่วยกำกับภาพขุนแผน, สาปเสือที่ลำน้ำกษัตริย์ กำกับภาพแมนเกิน 100 แอ้มเกินพิกัด)
กำกับศิลป์ ศราวุธ รอดเทศ
ออกแบบงานสร้าง
รัชฎาวรรณ อ่อนเผ่า
ออกแบบเครื่องแต่งกาย
เยาวภา ใสจุล (ชุมเสือแดนสิงห์ ตอนกระตุกติ่งเจ้าพ่อ)
ออกแบบหน้า-ผม
ธนาวุฒิ บู่สามสาย
ดนตรีประกอบ
ภูสิต อินทรทูต
แนวภาพยนตร์
ผจญภัยแฟนตาซี
นำแสดงโดย
วุฒินันท์ ไหมกัน , ณัฐวรรณ วรวิทย์, ปัญญาพล เดชสงฆ์,สิทธิชัย เหลืองเสรี,
บวรฤทธิ์ ฉันทศักดา, อาคม ปรีดากุล, ดลยา โพธิภัทรกุล, กาญจนาพร ปลอดภัย, พิเศก สังค์สุวรรณ, ภรัณ ปักษานนท์, ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง
เรื่องย่อ
ทีมงานสารคดีทางโทรทัศน์ที่มุ่งตีแผ่ความเลวและลงโทษเหล่าคนชั่วในสังคม พวกเขากำลังได้รับความนิยมมากในวงการ ทีมงานประกอบไปด้วย อาร์ต (วุฒินันท์ ไหมกัน) ช่างภาพหนุ่มอารมณ์ร้อน , จ๋า(ณัฐวรรณ วรวิทย์) ครีเอทีฟสาว อนาคตไกล น้าเต๋า(ค่อม ชวนชื่น) หนุ่มรุ่นใหญ่ฝ่ายข้อมูลตัวกลั่นและเชี่ยวในการหาโลเกชั่นของรายการ, ชด(ปัญญาพล เดชสงฆ์) ผู้กำกับรายการสารคดีหนุ่มที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน, คิม (โบกี้ ดลยา โพธิภัทรกุล) เด็กสาวลูกครึ่งอังกฤษที่ชีวิตแทบจะไม่เคยทำบาป รับหน้าที่เป็นนกต่อในการถ่ายทำสารคดีแต่ละครั้ง , อ้น(สิทธิชัย เหลืองเสรี) เด็กฝึกงานที่อายุน้อยที่สุดในทีมแต่ฝันที่จะเป็นผู้กำกับ และ เละ(บวรฤทธิ์ ฉันทศักดา) โชเฟอร์หนุ่มจิตอ่อนนิสัยขี้กลัวที่ไม่เคยรู้เลยว่า ตนเองชะตาขาด เดินทางมุ่งหน้าไปถ่ายทำรายการตามปกติเหมือนเคย กลับต้องมีเหตุให้ตนเองและพรรคพวกต้องเผชิญหน้าและรับกรรมไปกับโทษมหันต์จากการตกนรก เมื่อรถตู้ของกองถ่ายเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำเสียหลักทุกคนหมดสติไป
หลังจากที่พวกเขาฟื้นขึ้นมาก็ต้องพบและฝ่าฟันกับความน่าสะพรึงกลัวของ “นรก” ทั้งที่จริงแล้วมีเพียงเละ ซึ่งเป็นคนขับที่ชะตาถึงฆาต ส่วนคนอื่นๆ ติดสอยห้อยตามมา เพราะอุบัติเหตุที่ทั้งหมดร่วมเดินทางมาด้วยกันเท่านั้น ทุกคนมีกรรมหนักกรรมเบากันคนละแบบ จึงถูกส่งไปอยู่ในขุมที่ต่างกันห้าขุม ประกอบไปด้วย นรกขุมฆ่าสัตว์ (ได้รับผลกรรมชดใช้ตามที่เคยทำไว้กับสัตว์อื่น) นรกพูดปด คิดไม่ดี ทำร้ายบุพพการี (ถูกทรมานโดยการทุบฝ่ามือ) นรกลักทรัพย์ (ถูกตัดแขนตัดขา) นรกสุรา ( เอาน้ำกระทะทองแดงกรอกปาก) นรกกาเม (ปีนป่ายต้นงิ้ว และอีกาปากเหล็ก) พวกเขาต่างระลึกกรรมในอดีตที่เคยทำกันมา โดยในแต่ละขุมจะมียมฑูตคนละชุดกัน คอยควบคุมดูแล และพวกเขาจะมองเห็นแต่เฉพาะคนที่มีบาปอยู่ในขุมของตนเท่านั้น
เมื่ออาร์ตได้รู้ว่าตนและเพื่อนยังไม่ถึงฆาต พวกเขาจึงยังไม่ใช่คนตายที่ยมฑูตจะมองเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงพากันหลบหนีไป การติดตามไล่ล่าจากนรกได้เปิดฉากขึ้น พวกเขาจะตัดสินใจอย่างไร? ระหว่างความเป็นกับความตาย ? ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในการช่วยเพื่อน หรือเอาตัวรอด
เมื่อยังมีคนในกลุ่มที่ยังไม่ถึงฆาต พวกเขาจะฝืนชะตากรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้นได้อย่างไร?...
รายละเอียดงานสร้าง
“คนเราตายแล้วไปไหน” คำถามที่คนหมดลมหายใจแล้วเท่านั้นที่จะตอบได้ “ใครเคยเห็นนรกบ้าง” คำถามที่หลายคนอยากรู้แต่ไม่อยากไป แล้วถ้าคุณยังไม่ถึงที่ตาย แต่ต้องตกนรกเผชิญกับความน่าสะพรึงกลัวของยมโลก คุณจะทำอย่างไร สหมงคลฟิล์ม เปิดเส้นทางแห่งความหวาดกลัว นำคุณสู่การเดินทางชวนสยอง ท้าทายศีลธรรม ความดี ความชั่วในจิตใจคน ข้ามเขตไปยังภพโลกแห่งการลงทัณฑ์
ผู้กำกับมือทอง ปื๊ด ธนิตย์ จิตนุกูล ผู้คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มากว่า 20 ปี ผันตัวเองเป็นโปรดิวเซอร์ เปิดโอกาสให้ เจี๋ยน ฑีฆายุ ธรรมนิตยกุล และ บลูตัส สาธิต ประดิษฐ์สาร 2 ผู้กำกับศิลป์และออกแบบงานสร้างมากความสามารถ จากรั้วศิลปากร ก้าวสู่การเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกอย่างเต็มตัว กับภาพยนตร์เรื่อง “นรก”
“ จริงๆ แล้วทั้งสองคน บลูตัส กับ เจี๋ยน เขาช่วยผมกำกับศิลป์ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เรื่อง รักเอย เสือโจรพันธ์เสือ จนมาถึงขุนแผน ผมว่าประสบการณ์ในการทำงานของทั้งสองคนมากพอ ถึงเวลาของเขาแล้วที่จะใช้ประสบการณ์การทำงาน ถ่ายทอดจินตนาการเล่าเรื่องออกมาเป็นภาพ ตามวิธีคิด วิธีการทำงานของทั้งสอง
คน ยิ่งเขาเรียนมาด้านจิตรกรรม ทำงานด้านศิลป์ ออกแบบงานสร้างภาพยนตร์มาหลายเรื่อง เขามีความชำนาญ ความถนัดทางด้านนี้ น่าจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของนรก ที่ต้องการสื่อออกมาในมุมมองของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี แปลกตา ตามสไตล์ของทั้งสองคน เพราะไม่มีใครเคยเห็นนรกจริงๆ แต่บลูตัส กับเจี๋ยนจะทำให้เราได้เห็นและผจญภัยไปในดินแดนที่หลายคนไม่เคยรู้จัก ”
“นรก” เป็นภาพยนตร์ไทยที่ถ่ายทอดประเด็นความเชื่อของคนไทยในเรื่องของผลกรรม “การทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ผ่านมุมมองใหม่ของ 2 ผู้กำกับที่คร่ำหวอดในวงการมาร่วมสิบปี อย่าง “เจี๋ยน ฑีฆายุ ธรรมนิตยกุล” และ “บลูตัส สาธิต ประดิษฐ์สาร” ประสาน 2 จินตนาการในการนำเสนอเรื่องราวการเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับโลกหลังความตาย ด้วยบรรยากาศที่สวยงามแบบดิบๆ ตื่นเต้นไปกับการผจญภัยดิ้นรน
เอาชีวิตรอดจากดินแดนปริศนาลึกลับที่เรียกขานกันว่า “นรก” สิ่งที่ปรากฏในภพโลก จะใช่คำตอบของชีวิตหรือไม่ และความตายเป็นจุดจบที่ไม่มีใครหนีพ้น หรือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น…
การเนรมิตทุ่มทุนสร้าง “นรก” อย่างอลังการ ด้วยการสรรหาโลเกชั่นสถานที่ถ่ายทำแปลกตา อย่าง บึงปรีดา จ. เพชรบุรี สถานที่แรกเปิดตัวให้รู้จักกับนรก นักแสดงประกอบกว่า 600 ชีวิต ร่วมเข้าฉากอันแสนร้อนระอุ ให้บรรยากาศลานลงทัณฑ์ที่แสนแห้งแล้งอดอยาก ทุรกันดาร สุดทรมาน การหนีเอาตัวรอดจากนรก และแปลงโรงข้าวโพดขนาดมหึมาให้เป็นบัลลังก์ของพญายมอันเป็นสถานที่บัญชาการตัดสินกรรม ห้องดวงชะตาที่บรรจุดวงชะตาของเหล่าวิญญาณที่เวียนวนอยู่ในนรก และห้องรอเกิดสถานที่สำหรับผู้ชดใช้กรรมหมดในชาตินี้แล้วรอเพื่อจะได้กลับไปเกิดอีกครั้ง ถ้ำของพวกสัมพะเวสีที่คอยยื้อแย่งส่วนบุญ กินได้แม้กระทั่งพวกเดียวกันเองนรกขุมต่างๆ ที่ตัวละครแต่ละตัวต่างก็ต้องไปชดใช้กรรมในการกระทำที่ตัวเองก่อขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นการถ่ายทอดนรกในจินตนาการของผู้กำกับทั้งสองให้ออกมาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“เรามีการ research จากแหล่งข้อมูลต่างๆ นรกจากพวกหนังสือธรรมมะที่รู้มามันเยอะมาก มีเป็นพันๆ ขุม เราก็ยกมาแค่ศีล 5 เราไม่สามารถจะเอานรกมาทั้งหมดได้เพราะมันเยอะมาก แล้วเอามาตีความว่าศีล 5 มีอะไร แล้วถ้าทำผิดศีลข้อนี้ข้อนี้จะเป็นยังไง นรกในความคิดของเราแบบเป็นรูปธรรม เราคิดแบบง่ายๆ คิดว่านรกน่าจะคล้ายจอมปลวก ตรงที่ไม่มีอาณาเขตดินแดนที่แน่นอน รูตรงนี้ทะลุไปชั้นบนได้ เป็นมิติที่ทะลุถึงกันได้ นรกมีบรรยากาศเป็นไฟร้อนแล้วลึก จะต้องเป็น Space อะไรที่มันไม่มีที่สิ้นสุด ไปทางไหนก็เป็นไปได้ คือ เวลาเดินอยู่ถ้าก้าวผิดก้าวเดียว มันก็เปลี่ยนไปแล้ว คล้าย ๆ เป็นมิติทีจับต้องไม่ได้ จะเจออะไรเราไม่สามารถคาดเดาได้ ในนรกก็จะมีระบบสังคมของนรกเองเหมือนกัน มีมัจจุราชเป็นหัวหน้าคล้ายประธานาธิบดี แล้วก็มีสุวรรณ สุวานเป็นมือขวามือซ้าย สุวรรณเป็นบุ๋น สุวานเป็นบู๊ แล้วท่านมัจจุราชจะเป็นคนตัดสินว่าใคร ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก แต่ต้องลงมาที่บัลลังก์มัจจุราชก่อน พอลงมาก็มาตัดสินว่า ใครทำผิดอะไร จะมีภาพความผิดแต่ละคน พอถูกตัดสินแล้วตัวละครก็ไปรับกรรมที่แต่ละคนทำไว้ การลงโทษเหมือนโรงฆ่าสัตว์ มาโต๊ะนี้โดนไอ้นี่ก่อน แล้วไปโดนลงโทษอีกโต๊ะ โดยมัจจุราชจะเป็นผู้คุมเกมทั้งหมด”
องค์ประกอบสำคัญสำหรับภาพยนตร์ คือ นักแสดง สองผู้กำกับใหม่ไฟแรง เจี๋ยน และบลูตัส ได้คัดเลือกนักแสดงหน้าใหม่มารับบทบาทใน “นรก” เพื่อความสมจริง ไม่ติดภาพของความเป็นดารา ดูเป็นคนธรรมดาที่สามารถเห็นได้ตามท้องถนน มีความดีความเลวอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นพระเอกหรือนางเอกก็สามารถที่จะทำผิดหรือทำถูกได้พอๆ กันในความเป็นมนุษย์ปุถุชน
“สำหรับการคัดเลือกนักแสดงมีหลายโจทย์ ครั้งแรกเอาดาราที่มีชื่อเสียงมาเล่น แต่เราอยากได้นักแสดงหน้าใหม่ อยากได้คนที่เราสามารถเห็นได้ตามป้ายรถเมล์ ตามศูนย์การค้า คือ เราพยายามเลือกคนดึงคนในสังคมแต่ละกลุ่มมาให้ดู อยากให้มีการแสดงที่เป็นธรรมชาติ ไม่อยากให้วางมาดเท่ห์ตลอด กินข้าวก็กินข้าวเหมือนคนปกติ และโดนคอมเม้นท์ว่าไม่สวยไม่หล่อได้ อย่าง หน่อง (วุฒินันท์ ไหมกัน) เคยทำงานด้วยกันตอน “ขุนแผน” เขาแสดงเป็นพลายงาม ลูกชายขุนแผน รู้สึกว่าคนนี้เขามีความมุ่งมั่นแล้วทั้งร่างกายและหน้าตาออกไทย ๆ ส่วนนางเอก กุ้ง (ณัฐวรรณ วรวิทย์) เขาเป็นคนแรกที่เข้ามาแคสติ้ง ตอนแรกยังไม่ใช่เลยทีเดียว เราก็เก็บไว้ก่อน แล้วเปิดทดสอบใหม่อีก 2 เดือน ระหว่างนั้นดูไปดูมา นี่แหล่ะคนนี้เหมาะสมที่สุด ส่วนน้าค่อม เป็นตัวเลือกแรกที่มองไว้แล้วก็ได้คิวด้วย เล่นเป็นน้าเต๋าเป็นผู้มีความรอบรู้ด้านสารคดีมานาน ข้อเสียอย่างเดียวคือติดเหล้า แล้วก็จะโยงไปถึงครอบครัวเขาพอกินเหล้าแล้วจะทำร้ายภรรยา พี่ปื๊ดหรือใครๆ เขาบอกว่า คาแรกเตอร์นี้แข็งดี ส่วน เอเอ (ปัญญาพล เดชสงฆ์) เข้ามาแคสติ้ง เขาจะโดดเด่นมาก บทชดนี่เอเอเขานอนมาเลย แล้วก็ลงตัวที่เขา ผมบอกว่าหนังผมเอ็ฟเฟ็กติดตัวเยอะนะ ต้องใช้เวลา เอเอเขาก็ไม่มีปัญหา โอเคเลย สำหรับโบกี้ (ดลยา โพธิภัทรกุล) เราติดต่อไป ตอนแรกวางให้เขาเป็นคนที่ไม่ผิดอะไร เป็นคนที่ไม่มีเหตุผลที่ต้องตกนรก แต่ต้องตายเพราะคนเลว คือ ชด ส่วนเฟิร์ส รับบทอ้นในเรื่อง มาเจอกันตอนเล่นละคร รักเกิดในตลาดสด เข้ามาแคสติ้งแล้วก็ได้ เขาจะเป็นตัวแทนของวัยรุ่นในสังคม สำหรับ โจ้ (บวรฤทธิ์ ฉันทศักดา) ที่รับบทเละ มาแคสติ้งเหมือนกัน แล้วรู้สึกว่าคนนี้นี่แหล่ะใช่เลย เป็นเละจริงๆ จะดูลุกลิกๆ นิดๆ สมกับบทที่ได้รับ ที่เป็นชู้กับเมียคนอื่น แต่ต้องยอมรับในสปิริตของนักแสดงทุกคน เพราะแต่ละคนต้องเปื้อนโคลนเปื้อนฝุ่น เปื้อนเลือดปลอม ต้องอยู่ท่ามกลางอากาศที่ร้อน ทุกคนทุ่มเทในการทำงานอย่างเต็มที่ ”
ไม่พียงเท่านี้ การเมคอัพที่โดดเด่น การหล่อทำโมเดลของแต่ละชุด เสกสรรค์ปั้นแต่งให้ตัวละครมีชีวิตดูจริงจัง น่าเกรงขาม ทั้งพญายม สุวรรณ สุวาน มีการทาสีตัว ใส่ชุดเกราะ เป็นหิน โลหะ มีลวดลายอิงอารยธรรมเก่าแก่ของตะวันออก
“สมัยก่อนจะมีพวกละครพิภพมัจจุราช หรือมีโฆษณาที่นำท่านยมมาล้อเลียน ให้ดูเป็นตลกๆ คนที่ดูจะติดภาพล้อเลียนดูว่าไม่จริง การที่จะทำให้ท่านมัจจุราชมีตัวตนเป็นจริงได้ ต้องดูแล้วรู้สึกว่าน่ากลัวน่าเกรงขาม จริงจัง ส่วนพวกเสื้อผ้าการออกแบบ ดีไซน์ ฝ่ายเสื้อผ้าจะเป็นคนหาข้อมูล ซึ่งเราได้แบบมาจากประเทศในแถบตะวันออก รวบรวมแบบข้อมูลต่างๆแล้วเอามาจัดสรรใหม่ พวกเราอยากให้มีความเก่า หมายถึง อารยธรรมเก่า ๆ ในภูมิภาคนี้ อย่างศีรษะหมวกของพญายมจะเป็นแบบของศรีลังกา ชุดเกราะเป็นหิน เหล็กๆ เราเอามาจากทางเขมร เราอยากได้ที่เป็นอารยธรรมเก่าแก่ เพราะนรกไม่มีชาติ ไม่มีประเทศ ไม่อยากให้ออกมาเป็นชาติใดชาติหนึ่ง เพราะท่านพญายมไม่มีโซนว่าจะอยู่ไหน ท่านเหมือนเป็นสากลที่ไปได้ทุกที่ไม่สามารถกำหนดให้ท่านอยู่ที่ใด หรือเป็นของชาติใดชาติหนึ่งได้ พวกชุดเกราะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของมัจจุราช สุวรรณ สุวาน เป็นการผสมผสานอารยธรรมจากแหล่งต่างๆ ดูแล้วต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน พอคนเห็นน่าจะชอบ ทำให้คนจำได้ ดูเท่ห์ดูจริงจัง มีการทำโมเดลของของเครื่องแต่งตัว เม็คอัพใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ปรับตรงโน่นเปลี่ยนตรงนี้ เพื่อให้ภาพ เม็คอัพ และเอ็ฟเฟ็กต์กลมกลืนกัน ไม่ว่าจะเป็นสีผิวของพญายม สีผิวของสุวรรณ,สุวาน สีของผู้คุมนิรยบาล ไปถึงซีจี”
ส่วนที่มาของชื่อภาพยนตร์ “นรก” เป็นความตั้งใจส่วนตัวของผู้กำกับทั้งสองที่มีความเห็นตรงกันว่าน่าจะใช้คำตรงๆ แรงๆ ที่ชัดเจนสามารถอธิบายเรื่องราวของภาพยนตร์ได้ทั้งหมด เมื่อได้ยินชื่อ “นรก” แล้วต้องโดน ให้รู้สึกว่า...นรก...จริง...จริง
“ คำว่า นรก ผมชอบมาก อยากให้เป็นชื่อหนัง ถ้าเป็นชื่อภาษาอังกฤษก็ เป็นคำว่านรกทับศัพท์ไปเลย เวลาพูดไป คนพอได้ยินก็จะชื่อนี้เลยหรือ คนฟังจะสะดุ้งทุกที เพราะเหมือนกับว่าทำไมพูดสวรรค์ไม่ขัดปาก แต่พอพูดถึงนรก จะกระดากมากกว่าพูดถึงสวรรค์ ผมจะบอกว่าเรื่องนี้จะเปลี่ยนไปอยู่นรกหรือสวรรค์ก็ได้ ถ้ามันมีสังคม หนังผมเหมือนเกมส์ คุณต้องเล่นเกมส์ให้ผ่านถึงจะกลับไปได้ ”
คาแรคเตอร์ นักแสดงเรื่อง “นรก”
อาร์ต รับบทโดย วุฒินันท์ ไหมกัน (ขุนแผน ในบทพลายงาม)
ชายหนุ่มตากล้องของทีมงานถ่ายสารคดี มีนิสัยเงียบขรึม รักเพื่อนฝูง ไม่เห็นแก่ตัว เป็นเพื่อนสมัยเรียนกับชดและจ๋า มีจิตใจดี เป็นคนปากกับใจตรงกัน ถึงแม้จะพูดจาขวานผ่าซาก กำพร้าพ่อกับแม่ อยู่กับญาติผู้ใหญ่มาตั้งแต่เด็กจ๋า รับบทโดย ณัฐวรรณ วรวิทย์ ( รองอันดับ 1 RVS TOP MODEL2002, มือปืนเก๋าเจ๋ง, มิวสิควีดีโอ)
โปรดิวเซอร์สาวสวย มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ค่อยฟังใคร ดื้อรั้น เก็บกด ห่วงเพื่อนฝูง เป็นเพื่อนสมัยเรียนกับอาร์ตและเป็นแฟนกับชด ทำงานเก่ง ข้างนอกดูเหมือนจะเข้มแข็งแต่ข้างในอ่อนแอ เปราะบาง เป็นคนที่ครอบครัวมีปัญหา พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็กๆ เป็นคนขาดความอบอุ่น เชื่อมั่นในตัวชดค่อนข้างสูง ทำงานช่วยเหลือตัวเองมาโดยตลอด
ชด รับบทโดย ปัญญาพล เดชสงฆ์ (เซ็กโฟนคลื่นเหงาสาวข้างบ้าน)
เป็นผู้กำกับของทีมงาน มีความทะเยอทะยานสูง โลภมาก มีความเห็นแก่ตัว เจ้าชู้ที่สุด ไม่ชอบช่วยเหลือใครถ้าไม่ได้ผลประโยชน์กับตัวเอง เป็นเพื่อนกับอาร์ตและเป็นแฟนจ๋า ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอด
น้าเต๋า รับบทโดย น้าค่อม อาคม ปรีดากุล (7 ประจัญบาน 1,2)
เป็นฝ่ายข้อมูลของทีมงาน จัดหาโลเกชั่นในการถ่ายทำ เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในทีมงาน เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บาปบุญคุณโทษ แต่ชอบกินเหล้า กินเบียร์ เล่นการพนัน เวลาไม่เมาเป็นคนใจดี ให้คำปรึกษาน้องๆ ทีมงานได้ แต่พอเหล้าเข้าปากจะเปลี่ยนเป็นคนละคน ชอบทุบตีเมีย
คิม รับบทโดย ดลยา โพธิพิภัทรกุล (7 ประจัญบาน1)
เป็นเด็กสาวในทีมงาน มีหน้าที่เป็นนางนกต่อในการถ่ายทำเป็นประจำ มีนิสัยน่ารัก เชื่อคนง่าย ซื่อ มีความตั้งใจในการทำงานสูง แต่โดนชดหลอกและได้เสียกับชด เพราะเชื่อในคำพูดของชดที่เป็นหัวหน้าทีม และไม่รู้ว่าชดเป็นแฟนกับจ๋า เป็นเด็กสาวที่ไม่มีพิษไม่ภัยกับใคร
เละ รับบทโดย บวรฤทธิ์ ฉันทศักดา (ชุมเสือแดนสิงห์ “ตอนกระตุกติ่งเจ้าพ่อ”)
เป็นคนขับรถให้ทีมงาน และเป็นผู้ช่วยของอาร์ต เป็นคู่ซี้กับอ้น ชอบเรื่องเพศเป็นชีวิตจิตใจ เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน แต่ใครสั่งอะไรก็ทำโดยไม่มีการโต้แย้ง หรือขัดคำสั่ง รักเพื่อน ๆ ในทีมงานทุกคน
อ้น รับบทโดย สิทธิชัย เหลืองเสรี (ว๊ายบึ้มเชียร์กระหึ่มโลก)
เป็นเด็กฝึกงานในทีม นิสัยเด็กวัยรุ่นทั่วไป เป็นเด็กไม่ค่อยสนใจกับอะไรรอบตัว ไม่สนใจอนาคตของตัวเอง แต่เชื่อฟังพี่ ๆ ทีมงานทุกคน มีความตั้งใจในการทำงานเป็นเด็กไฮเปอร์ ซ่า ๆ ตามประสาเด็กวัยรุ่น และชื่นชอบในการทำงานของชดมาก ไม่ว่าชดจะพูดหรือสั่งทำอะไร ทำหมด
เกร็ดภาพยนตร์เรื่อง “นรก” ที่น่าสนใจ
1. ที่มาของภาพยนตร์เรื่อง ”นรก” นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากคำถามที่ว่า “ตายแล้วไปไหน ใครเคยเห็นนรกบ้าง“ เป็นจุดเริ่มต้นของการหาคำตอบตามแหล่งข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือธรรมมะ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง คำบอกเล่าต่างๆ ของผู้รู้และผู้มีประสบการณ์ พัฒนาจนมาเป็น “นรก” ฉบับปัจจุบัน
2. การเดินทางในโลกภาพยนตร์ของเจี๋ยน และ บลูตัส เริ่มจากการเป็นผู้กำกับศิลป์คู่กันครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง “รักเอย” กำกับศิลป์ และออกแบบงานสร้างเบื้องหลังภาพยนตร์ไทยหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวัสดีบ้านนอก, โกซิก, 14 ตุลาฯ, ผีสามบาท, ขุนแผน และประสบความสำเร็จกับรางวัลเกียรติยศกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “เสือโจรพันธุ์เสือ” ภายใต้การกำกับของ ปื๊ด ธนิตย์ จิตนุกูล และเป็นผู้ผลักดันสนับสนุนให้ เจี๋ยน และ บลูตัสก้าวเข้าสู่การกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกอย่างเต็มตัว กับภาพยนตร์เรื่อง “นรก” จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในการกำกับศิลป์และออกแบบงานสร้างภาพยนตร์มามากมาย ทำให้การใช้เทคนิคภาพ แสง สี เสียงในภาพยนตร์ที่เน้นองค์ประกอบของอาร์ทไดเร็คชั่นอย่างภาพยนตร์เรื่อง “นรก” น่าจะเข้าทางผู้กำกับทั้งสองคนเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นการผสมผสานจินตนาการอันหลากหลายผ่านงานด้านภาพและโปรดักชั่น ที่เน้นความน่าสะพรึงกลัวของยมโลก
3. ทางเข้าทางออกของนรก ไม่ได้เป็นประตู หรือมีทางเข้าออกทางเดียว มีทางเข้าออกหลายทางทางเข้าทางออกจะเป็นคล้ายๆ งวงพายุ หลายๆอัน อยู่กระจายกันไป มีทั้งปล่องขาว ปล่องแดง ถ้ามองภาพกว้างในเรื่องนี้จะเห็นว่ามีงวงพายุกระจายอยู่เต็มไปหมด ทางเข้านรกจะเป็นเกลียวพายุสีแดงดูร้อนแรง ส่วนทางออกจะเป็นสีขาวพุ่งขึ้นไป เป็นสัญลักษณ์ง่ายๆ ใครดูก็จะเข้าใจได้ว่า ถ้าไปสวรรค์จะเป็นเกลียวหมุนขึ้นสีขาว แต่ถ้าลงนรกจะหมุนลงเป็นสีแดง วิญญาณจะหลุดเข้ามาที่นี่ก่อน แล้วค่อยไปที่ห้องตัดสิน
4. ภาพนรกที่เห็นเป็นเหมือนกำลังก่อสร้างอยู่ มีที่มาที่ไป เป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่ดีไซน์นรกเหมือนซ่อมๆ คล้ายฉากที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะต้องการให้นรกดูเหมือนใช้งานหนัก ซึ่งตัวนรกเองก็ต้องซ่อมตัวเองเหมือนกัน เพราะ มีคนเข้าออกเยอะ ใช้งานนรกเยอะ เหมือนวัฒนธรรมที่ล่มสลาย ก็ต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซม ให้เห็นถึงสัจธรรม แม้แต่นรกเองถึงจะเป็นสถานที่น่าเกรงกลัวสำหรับคนทั่วไป เป็นที่ลงโทษคนทำผิด ก็ต้องซ่อมเช่นเดียวกัน
5. ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นรกในจินตนาการของผู้กำกับทั้งสอง จะไม่มีวันเวลา ไม่มีพระจันทร์ ไม่มีดวงอาทิตย์ เป็นสถานที่ที่ไม่มีเวลา พวกที่อยู่ในนรกจะไม่กินไม่นอน จะกินอะไรคนต้องทำบุญมาให้
6. ในนรกสำหรับเรื่องนี้ คนที่ตายแล้วเลือดจะเป็นสีดำ เช่น ชด ส่วนคนที่ยังไม่ตายจะมีเลือดเป็นสีแดง ซึ่งในกลุ่มพระเอกยังมีคนที่ยังไม่ตาย เช่น ตัวพระเอก จ๋า และคิม มีเลือดเป็นสีแดง
7. สีผิวของมัจจุราชใช้สีแดงเป็นสีผิว แทนสัญลักษณ์ของความตาย เลือดเนื้อ วิญญาณ ให้ความรู้สึกเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ แม้จะนั่งนิ่งๆ แต่ก็ดูเป็นคนที่มีอารมณ์อยู่ในตัว
8. สำหรับสุวรรณ สุวาน มีการดีไซน์ให้สีผิวต่างกัน เพราะต้องการบ่งให้ชัดถึงความแตกต่างของแต่ละตัว แยกไปเลยว่าใครทำหน้าที่อะไร สุวรรณเป็นฝ่ายบุ๊น จะมีสีผิวออกเหลือง คอยเก็บบัญชีรายชื่อดวงวิญญาณ ส่วน สุวานเป็นบู๊ จะสีเทาๆ อาวุธที่สุวานใช้ในเรื่อง บางคนอาจคิดว่าเอามาจากตะวันตก แต่จริงๆ แล้ว ทีมงานมีการหาข้อมูล ทำ research อาวุธที่ใช้เป็นอาวุธไทยโบราณ
9. รู้หรือไม่ว่าสัมพะเวสี เป็นเปรตชนิดหนึ่ง เป็นพวกขอส่วนบุญ ในเรื่องนี้มีการแตกออกมาให้เห็นว่ามีเปรตชนิดอื่นอีกนอกจากที่คนทั่วไปรู้จักกันว่า เปรตต้องสูง แขนขายาว ซึ่งจริงๆ แล้วเปรตมีหลายชนิด สัมพะเวสีก็เป็นเปรตอีกชนิดหนึ่ง จะแย่งอาหารกัน จะมีสัมพะเวสีปากเป็ด ปากไก่ หรือหน้าหมู ทางผู้กำกับมีวิธีคิดที่สื่อออกมาเป็นรูปธรรมอย่างง่ายๆ คือ ใครฆ่าอะไร ตายไปก็จะเป็นแบบนั้น เช่น ฆ่าเป็ด ปากก็เป็นเป็ด ฆ่าไก่ ปากก็เป็นไก่
10. ห้องดวงชะตา ห้องที่บรรจุดวงชะตาของเหล่าวิญญาณที่เวียนวนอยู่ในนรก ใครตายดวงชะตาก็จะตกลงสู่พื้น แล้วจะมีพนักงานคอยเก็บแบกไป ส่งต่อให้สุวรรณ แล้วสุวรรณรับมาดูว่าคนนั้นเคยทำอะไรมาบ้าง จากนั้นก็จดบันทึกไว้ ดวงชะตาจะเหมือนกับ memory ที่เก็บข้อมูลต่างๆ ของเราไว้
11. เลือดในเรื่องนี้ เรียกได้ว่าทำและผลิตกันเป็นโรงงานเลือดกันเลยทีเดียว เลือดมีหลายแบบให้ใช้ ตามลักษณะการใช้งาน ทาตัวก็แบบหนึ่ง ไว้อมก็เป็นอีกแบบ ถ้าเลือดแบบทาตัว ต้องหนืดเหนียว เพราะไม่งั้นเลือดจะเป็นปื้นๆ ไม่เหมือนของจริง แต่ถ้าเป็นเลือดแบบอม จะค่อนข้างเหลว ผสมน้ำแดงและสีผสมอาหาร สำหรับรับประทานได้
12. ไม่เพียงนักแสดงเลือดใหม่เท่านั้น ภาพยนตร์เรื่อง “นรก” ยังได้นักแสดงมากฝีมือมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความเข้มข้นกับการหวนคืนจอเงินอีกครั้งของ กาญจนาพร ปลอดภัย ในบท แม่จ๋า ซึ่งต้องใช้ความสามารถเค้นอารมณ์ในการแสดงสูง ด้วยความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ทำให้ นรก เป็นภาพยนตร์ที่ได้อรรถรสหลากอารมณ์ในเรื่องเดียว
ประวัติผู้กำกับ
ฑีฆายุ ธรรมนิตยกุล (เจี๋ยน)
- เกิดวันที่ 16 สิงหาคม 2515 ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร
- จบการศึกษาคณะจิตรกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- 2537 กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “รักเอย (จริงหรือที่ว่าหวาน)”
- 2541 กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “เสือโจรพันธ์เสือ
- 2542 กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “สวัสดีบ้านนอก”
- 2543 ออกแบบงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง “14 ตุลา”
ออกแบบงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง “ขุนแผน
สาธิต ประดิษฐ์สาร (บลูตัส)
- เกิดวันที่ 17 สิงหาคม 2516 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
- จบการศึกษาจากคณะจิตรกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- 2537 กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “รักเอย (จริงหรือที่ว่าหวาน)”
- 2541 กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “เสือโจรพันธ์เสือ
- 2542 กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “สวัสดีบ้านนอก”
- 2543 กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “โกซิก”
- 2544 กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “ผีสามบาท”
กำกับศิลป์ภาพยนตร์เรื่อง “ขุนแผน
- 2545 ออกแบบงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง “ชุมเสือแดนสิงห์ ตอนกระตุกติ่งเจ้าพ่อ”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ