“บลจ.วี” ชวนลงทุนหุ้นทั่วโลก เปิดขาย IPO “WE-GA5M” จัดพอร์ตเชิงรุก ลดความเสี่ยง เน้นกลุ่มเติบโตจากปัจจัยพื้นฐาน เป้าหมายเลิกโครงการ 5%* ใน 5 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 1, 2019 15:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--เวิร์คลิ้งค์ ดาเอเจนซี่ "บลจ. วี เปิดขาย IPO กองทุน WE-GA5M วันที่ 2-10 ก.ค. 2562 ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการ 5%* ใน 5 เดือน กระจายการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุนเชิงรุก เลือกหุ้นพื้นฐานดีระดับราคาน่าสนใจ มองปัจจัยกดดันการลงทุนเริ่มคลี่คลายและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เป็นปัจจัยหนุนหุ้นเทคโนโลยี, กลุ่มอุตสาหกรรม, กลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลท์แคร์" "นางสาวงามนภา ธวัชโชคทวี" กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด ("บลจ.วี") เปิดเผยว่า ด้วยภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก ประกอบกับข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุน ทำให้การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและเลือกลงทุนในหลักทรัพย์อาจยากขึ้นสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป บลจ.วี จึงขอแนะนำการจัดพอร์ตลงทุนแบบเชิงรุกด้วยการกระจายการลงทุน(Asset Allocation) โดยผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญ กับ กองทุนเปิด วี โกลบอล แอลโลเคชั่น 5M (WE-GA5M) เปิดเสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 2-10 ก.ค. 2562 บลจ.วี เล็งเห็นว่า การจัดพอร์ตการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดมีความผันผวนจากปัจจัยกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจและการลงทุนที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้าและยังไม่มีความชัดเจน การจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้ "นางสาวนิตยา เลิศแสงเพชร" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ "บลจ. วี" กล่าวว่า หลายๆ ปัจจัยการลงทุนข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนและมีความผันผวนสูงขึ้นทั้งในด้านของราคาสินทรัพย์และสกุลเงินต่างๆ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาปัจจัยด้านสงครามการค้าระหว่างประเทศทั้งสหรัฐฯกับจีน , อินเดียและยุโรปได้ส่งผลกระทบการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกับประเทศที่มีโครงสร้างเศรษฐกิจจากการส่งออกสูงอย่างกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยเรื่องความตรึงเครียดในตะวันออกกกลางหลังสหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่าน รวมไปถึงความไม่ชัดเจนเรื่องถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ทั้งนี้ ด้วยหลายปัจจัยดังกล่าวที่เกิดขึ้นและข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการลงทุนที่เปลี่ยนแปลง แต่ละวันมีผลทำให้เกิดความผันผวนของตลาดหุ้นและตลาดเงินอยู่บ่อยครั้ง การจัดพอร์ตการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับสภาวะการลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างผลตอบแทนและลดความเสี่ยงจากตลาด สะท้อนจากการโพสต์ทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แต่ละครั้งที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเดียวกัน โดยเฉพาะในยุคที่ข่าวสารจำนวนมากสามารถสื่อถึงกันอย่างรวดเร็ว การกลั่นกรองและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของผู้จัดการกองทุน และจัดพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยง และคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีการเติบโตที่ดีจะสามารถช่วยให้การลงทุนบรรลุเป้าหมายได้ กองทุนเปิด วี โกลบอล แอลโลเคชั่น 5M (WE-GA5M) มีเป้าหมายการเลิกโครงการ 5% ในระยะเวลา 5 เดือน เป็นกองทุน Fund of Fundเน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี , หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคาร ทั่วโลกที่จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น และหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงมาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานมากจนมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าไปลงทุน ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มการผ่อนคลายความรุนแรงลงของสงครามการค้าที่คาดว่าจะมีโอกาสการเจรจาจนมีข้อยุติได้ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ในระยะหนึ่ง ทั้งนี้ กองทุน WE-GA5M จัดพอร์ตแบบ Active Allocation เนื่องจากมองว่า ความผันผวนของราคาจากภาวะการลงทุนในปัจจุบันที่มีอยู่สูง การติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบและปรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญซึ่งช่วยให้การลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายได้ดีกว่าการซื้อแล้วถือ (buy and hold) ซึ่งหากภาวะการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์กองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์โดยไม่มีข้อจำกัดด้านการลงทุน กองทุน WE-GA5M ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการ 5% ใน 5 เดือน โดยจะเลิกกองทุนตามเป้าหมายเมื่อมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ผ่านระดับ10.53 บาท ต่อหน่วยและ NAV รับซื้อคืนหน่วยลงทุนขั้นต่ำ 10.50 บาทต่อหน่วย โดยบริษัทจะดำเนินการสับเปลี่ยนเข้ากองทุนเปิด วี มันนี่ มาร์เก็ต ภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันถัดจากวันคำนวณราคารับซื้อคืนหน่วยอัตโนมัติ โดยมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท ด้าน "นายอิศรา พุฒตาลศรี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน "บลจ.วี" กล่าวว่า "บลจ.วี" มองว่าปัจจัยความรุนแรงของสงครามการค้าที่กดดันการลงทุนในตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายลงและการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นของเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นบางกลุ่ม เช่น กลุ่มหุ้นเทคโนโลยี , กลุ่มอุตสาหกรรม , กลุ่มธนาคารรวมถึงหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ที่มีพื้นฐานดี ขณะเดียวกันการเจรจาการค้าที่ได้ผลออกมาในเชิงบวก ส่งผลบวกต่อหุ้นตลาดเกิดใหม่ที่ได้ประโยชน์จากการส่งออกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนซึ่งเมื่อพิจารณาระดับราคาหุ้นพบว่าราคาอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน เป็นโอกาสที่น่าลงทุน ปัจจุบันเครื่องมือการลงทุนมีความหลากหลายขึ้น โดยเฉพาะกองทุนอีทีเอฟในต่างประเทศ ซึ่งมีสภาพคล่องสูงและมีหลักทรัพย์กลุ่มเฉพาะเจาะจงให้เลือกลงทุนได้มาก ทำให้เป็นช่องทางการลงทุนที่เอื้อให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับน้ำหนักการลงทุนและซื้อขายหลักทรัพย์ให้เหมาะกับความผันผวนของตลาดได้ดี ทั้งนี้ ในช่วงแรกกองทุน WE-GA5M จะกระจายลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯผ่านกองทุน Technology Select Sector SPDR Fund ในสัดส่วนประมาณ 40% ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีของจีนผ่านกองทุน Invesco China Technology ETF สัดส่วนประมาณ 20% ลงทุนหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ผ่านกองทุน Health Care Select Sector SPDR Fund สัดส่วนประมาณ 10% นอกจากนี้กองทุนยังเลือกลงทุนในหุ้นตลาดเกิดใหม่ผ่านกองทุน iShares MSCI Emerging Market ETF ประมาณ 20% และลงทุนในหุ้นอินเดีย ผ่านกองทุน iShares India 50 ETF ประมาณ 10% ความแตกต่างของ กองทุน WE-GA5M จากกองทุนที่เน้นจัดพอร์ตการลงทุนทั่วไป คือ การจัดพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงขณะเดียวกันจะโฟกัสกลุ่มที่มีการเติบโตจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีและราคาปรับตัวลงมาในระดับที่น่าสนใจ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านการจัดน้ำหนักลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ (Flexibility) แต่เน้นลงทุนแบบมีเป้าหมายด้วยการวิเคราะห์ตลาด (Focus on Specific) บนผลตอบแทนและความเสี่ยง (Risk-Adjusted Return Approach) " ปัจจุบันภาวะตลาดมีความผันผวนที่สูงมาก จากกระแสข่าวต่างๆ ที่ออกมาแต่ละวัน ส่งผลให้การลงทุนค่อนข้างจับจังหวะได้ยาก ดังนั้นการจัดพอร์ตด้วยการกระจายการลงทุนแบบเชิงรุก Active Allocation พร้อมด้วยการวิเคราะห์เลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีและระดับราคาน่าสนใจ โดยไม่อิงกับดัชนี จึงเป็นกลุยทธ์ลงทุนของกองทุน WE-GA5M ที่ บลจ.วี เชื่อว่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายในระยะสั้นจากการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกได้" นายอิศรา กล่าว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด ("บลจ.วี") โทรศัพท์ 02-648-1555 และ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 02-648-1111 - การกำหนดมูลค่าหน่วยลงทุนที่เป็นเป้าหมายเป็นเพียงเหตุให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายเท่านั้น การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่เป็นการประมาณการหรือรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามมูลค่าที่กำหนดเมื่อมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ทั้งนี้ หากภาวะตลาดหรือภาวะการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ กองทุนรวมอาจไม่ดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติก็ได้ ซึ่งหากกรณีที่ไม่เกิดเหตุตามเงื่อนไขการเลิกกองทุน ภายใน 5 เดือนนับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอีกครั้งใน วันทำการแรกถัดจากวันครบกำหนดระยะเวลา 5 เดือน นับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม - ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 5 เดือนได้ - เนื่องจากกองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศและมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งจำนวน ส่งผลให้มีความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ