กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--เมืองไทย แคปปิตอล
MTC สุดยอดผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และนาโนไฟแนนซ์ โชว์ผลงานไตรมาส 2/62 โตจากงวดเดียวกันปีก่อน และครึ่งปีแรกเปิดสาขาเพิ่มอีก 460 แห่ง ฟาก "ชูชาติ เพ็ชรอำไพ" ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่าจะพยายามปักหมุดคุมเข้มระดับเอ็นพีแอลไม่เกิน 2% ระบุสินเชื่อทะเบียนรถครึ่งปีหลังขอดูภาวะเศรษฐกิจและกำลังส่งของลูกค้าก่อน โดยเตรียมลุยปล่อยกู้เช่าซื้อจักรยานยนต์ รองรับดีมานด์ลูกค้าจากฐานเดิมที่มีกว่า 2 ล้านรายทั่วประเทศ
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 1,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 912 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,071 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,536 ล้านบาท
สำหรับในงวดผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิ 2,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,746 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม อยู่ที่ 5,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,884 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ เติบโต จากการเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง
"ภาพรวมของความสามารถในการทำกำไรในช่วงครึ่งปีแรกใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทยังคงรักษาการเติบโตของกำไรไว้ได้" นายชูชาติ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่าแผนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง ขอดูภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งก่อนตัดสินใจว่าจะเร่งการปล่อยสินเชื่อในครึ่งปีหลังหรือไม่ ทั้งนี้เนื่องจากถ้าภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ความสามารถในการชำระเงินของลูกค้าย่อมจะลดลงตามไปด้วย อันจะนำมาซึ่งปัญหาหนี้ค้างชำระ และเป็นหนี้เสียหรือ NPL ในที่สุด ดังนั้น การปล่อยสินเชื่อทะเบียนรถในครึ่งปีหลัง บริษัทจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังและคัดกรองลูกค้าให้มากขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากนี้บริษัทฯเตรียมขยายการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เพื่อต่อยอดธุรกิจ และตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างครบวงจร จากฐานลูกค้าเก่าที่มีกว่า 2 ล้านรายทั่วประเทศ
ดังนั้นเป้าหมายของยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2562 จะเติบโตประมาณ 30-35% หรือคิดเป็นเม็ดเงินปล่อยใหม่ 90,000-100,000 ล้านบาท ผลักดันรายได้และกำไรในปีนี้ และวางเป้าหมายคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 2% ขณะที่แผนเปิดสาขาในปีนี้ยังคงเป้าที่ 600 สาขา โดยในขณะนี้มีสาขาทั้งหมด 3,739 สาขา และในปี 2563 จะมีสาขาเป็น 4,500 สาขา ทั่วประเทศ