กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERDF)
ประสบความสำเร็จกับการครบรอบ 1 ปี โครงการ The Collaboration Project on Investment for Development of Rakhine State and Other regions in Myanmar ลงนามความร่วมมือนักลงทุน นักธุรกิจไทย กับนักธุรกิจรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาร์
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERDF) จัดงาน Sun Sand & Seafoods Symposium on Rakhine State Investment and Tourism Opportunities 2019 ครั้งที่ 1 เพื่อนำนักธุรกิจไทยลงทุนและพัฒนาในรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาร์
รัฐยะไข่ เปรียบดั่งไข่มุกอันมีค่าแห่งทะเลฝั่งตะวันตกตอนเหนือ ของประเทศเมียนมาร์ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERD) ร่วมกับ The Union Enterprise for Humanitarian Assistance, Resettlement and Development in Rakhine (UEHRD) และรัฐบาลยะไข่ ดำเนินโครงการ The Collaboration on Investment for Development in Rakhine state, Myanmar ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเชิญชวนนักธุรกิจ ผู้ประกอบการไทย ร่วมในโครงการ การลงทุนเพื่อการพัฒนาในรัฐยะไข่ และจากความมุ่งมั่น การมองเห็นโอกาสเพื่อพัฒนาศักยภาพทุกมิติ ของรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาร์ ในโอกาสครบรอบ 1 ปี จัดงาน "Sun Sand and Seafoods" Symposium on Rakhine State Investment and Tourism Opportunities 2019 เป็นครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2562 เวลา 13.30-17.00 น. ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ ซึ่งจากการสัมนาในครั้งนี้ จะจัดคณะนักธุรกิจ นักลงทุนไทยเดินทางพบหุ้นส่วนธุรกิจและเจรจาทางธุรกิจ ในเดือนพฤศจิกายน 2562 เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาร์ ต่อไป
การจัดงานในครั้งนี้ ทางสถาบันฯ ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย , ประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองแห่งเอเชีย (APRC) ให้เกียรติร่วมงาน และกล่าวคำปราศัยสำคัญ (Keynote Speech) ในงาน โดย ศาสตราจารย์ ดร.ไชยา ยิ้มวิไล ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERDF) และผู้ช่วยรัฐมนตรี (รองนายกรัฐมนตรี ดร.วิษณุ เครืองาม) เป็นประธานกล่าวเปิดงาน
ศาสตราจารย์ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, ประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองแห่งเอเชีย (APRC) กล่าวว่า "รัฐยะไข่เป็นรัฐและภูมิภาคที่ใหญ่เป็นอันดับแปดของเมียนมาร์ และเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากรัฐฉาน มีประชากรประมาณ 3.1 ล้านคน อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ในการก้าวไปสู่การสำรวจโอกาสทางเศรษฐกิจโครงการความร่วมมือด้านการลงทุนเพื่อการพัฒนารัฐยะไข่และภูมิภาคอื่น ๆ ในเมียนมาร์ เริ่มต้นในปี พ. ศ. 2561 โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายในการสำรวจโอกาสทางการค้าและการลงทุนในรัฐยะไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Sittwe, Kyauphyu, Thandwe และ Thaungup มีโอกาสมากมายสำหรับการพัฒนารัฐยะไข่ การลงทุนในภูมิภาคที่มากขึ้นจะสร้างโอกาสในการทำงานมากขึ้น และเสริมสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพต่อไป"
H.E U Thaung Tun, Union Minister, Ministry of Investment and Foreign Economic Relations กล่าวว่า "ในความหลากหลายของเมียนมาร์เป็นแหล่งของความแข็งแกร่ง ที่มีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม ประกอบด้วยประชาชนและชุมชนที่มีภาษาวัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่างกัน ยะไข่มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยเหตุผลหลายประการ อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซ และที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ เป็นประตูที่เหมาะสำหรับการค้าและการพาณิชย์ระหว่างจีน อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยะไข่อยู่ในตำแหน่งเพื่อรองรับการเกิดขึ้นของเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ด้วยความน่ารักของชายหาดที่เก่าแก่และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม Rakhine เป็นอัญมณีที่ซ่อนเร้นรอการค้นพบ การลงทุนสามารถสร้างและพัฒนาความหลากหลายนี้ได้ โดยการนำความคิดใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ วิธีการใหม่ในการทำธุรกิจ จะช่วยให้ชุมชนเชื่อมต่อเกินขอบเขตผ่านพรมแดนและข้ามทวีป "
ในโอกาสนี้ สถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERD) ได้รับเกียรติจากแขกกิตติมศักดิ์ให้เกียรติร่วมงาน และเป็นวิทยากรรับเชิญ ได้แก่ H.E. U Thaung Tun, Union Minister for Investment and Foreign Economic Relations /Prof. Dr. Aung Tun Thet, Member Peace Commission / Chief Coordinator of UEHRD The Republic of the Union of Myanmar / H.E U Kyaw Aye Thein, Minister for Finance, Revenue, Planning and Economy ,Rakhine State Government / Dr.Win Zaw Aung , Chairman & CEO of Sea Lion Group /Mr. Htun Htun Naing (Moderator), Former Chairman of Myanmar Young Entrepreneurs Association /Mr. Kyaw Min Htin, Joint Secretary General of Myanmar Tourism Federation / Mr. Kyaw Hlaing , Chairman of Man Aung Public Co Ltd /H.E. Mrs. Suphatra Srimaitreephithak Thai Ambassador, Royal Thai Embassy in Yangon และ Dr.Praphol Milindachinla, Vice President of IBERD, Executive Committee and Chairman of The Cooperation on Investment for Development of Myanmar Projects
ผลสำเร็จในการจัดงานครั้งนี้ ได้มี การลงนามความร่วมมือการลงทุน ที่ปรึกษาเพื่อโอกาสทางเทคโนโลยีใหม่ๆ (EOI Signing Ceremony) จากประเภทกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ ดังนี้
1. ด้านพลังงานบริสุทธิ์ ระหว่าง นายเมธี ฉัตรฤทธิชัยกุล ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาธุรกิจและพลังงานทางเลือก บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) และ Mr. Kyaw Hlaing, Chairman of Manuang Public Co.,Ltd , Rakhine State, Myanmar
2. ด้านการจัดการและบริหารน้ำ Water Supply and Water Management ระหว่าง นายวิบูลย์ แสงวิทยานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัท วิค แอนด์ ฮุคลันต์ จำกัด (มหาชน) และ Mr. Kyaw Hlaing, Chairman of Manuang Public Co.,Ltd, Rakhine State, Myanmar
3.ด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม ระหว่าง (ผู้แทน) นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย และ Mr. Htet Aung Myat , Chairman of Myan Pyi Soe Garment Co., Ltd, Myanmar
4. ด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว ระหว่าง นายสุจินต์ เจียรจิตรเลิศ, อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย และ Mr.Than Oo , Chairman of Hotel Association (Rakhine Zone), Myanmar
5. ด้านงานวิจัยและพัฒนาธุรกิจ ระหว่าง นางนที ชวนสนิท ผู้อำนวยการและคณะกรรมการ สถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERD)และ Mr. Kyaw Hlaing, President of Myanmar Survey Research, Yangon, Myanmar
กิจกรรมอื่น ๆ ในงาน ยังได้จัดให้มีกิจกรรมออกบูธ ได้แก่ การจับคู่ธุรกิจ ซึ่งมีนักธุรกิจและนักลงทุนชาวไทยได้ให้ความสนใจการเจรจาธุรกิจสร้างเครือข่ายกับนักธุรกิจชาวเมียนมาร์ สอบถามข้อมูลการลงทุนทำธุรกิจในรัฐยะไข่และรัฐอื่นๆ ในสหพันธรัฐเมียนมาร์เพิ่มเติม ได้ที่ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ (IBERD) โทรศัพท์: +66 2503-3880; +66 96-929-9333; +66 89-780-8922 หรือที่ email : iberd.thailand@gmail.com ; iberd.mukda@gmail.com