ดีบีเอสตั้งเป้าเติบโตธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเท่าตัวภายในปี 2566

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 18, 2019 14:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--ทีคิวพีอาร์ ประเทศไทย ดีบีเอสไพรเวทแบงก์และบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศการร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อเป็นเจ้าแรกในตลาดที่ให้บริการบริหารความมั่งคั่งครอบคลุมการลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ มุ่งเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหารและจำนวนผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ในประเทศไทยเท่าตัวภายในปี 2566 ธนาคารดีบีเอสประกาศการเป็นพันธมิตรระหว่างดีบีเอสไพรเวทแบงก์และบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยเป้าหมายเพิ่มสินทรัพย์ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยจาก 4 พันล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ (88,800 ล้านบาท) เป็น 8 พันล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ (177,000 ล้านบาท) ภายในปี 2566 โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ (high-net-worth individuals) ในประเทศไทยที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้น และกำลังมองหาช่องทางในการกระจายการลงทุนและเข้าถึงโอกาสการลงทุนในตลาดต่างประเทศ การร่วมเป็นพันธมิตรนี้จะมอบการเข้าถึงบริการบริหารสินทรัพย์จากการลงทุนทั้งตลาดในไทยและต่างประเทศที่ครอบคลุมและไร้รอยต่อให้ลูกค้าไทย ซึ่งนับเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่พร้อมให้บริการดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อตอบความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ธนาคารดีบีเอสยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ในประเทศไทยเป็นเท่าตัวภายในปี 2565 ประเทศไทยมีประชากรที่มีความมั่งคั่งที่มากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีฐานผู้ลงทุนรายใหญ่ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยจำนวนกว่า 122,000 รายในปี 2561 ซึ่งใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์ สินทรัพย์ของผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 12.7 ต่อปี ช่วงระหว่างปี 2553 ถึงปี 2560 สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของผู้ลงทุนเหล่านี้อยู่ในรูปของธุรกิจครอบครัว ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยและมีมูลค่าร้อยละ 80 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศ และบริษัทเหล่านี้มีจำนวนกว่าหนึ่งในสามของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากการร่วมเป็นพันธมิตรนี้ธุรกิจครอบครัวในประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันภายในธนาคารดีบีเอสภายใต้คอนเซปต์ "One Bank" ซึ่งเหมาะกับบริการด้านนี้อย่างยิ่ง โดยตอบความต้องการของลูกค้าการบริหารความมั่งคั่ง ลูกค้ารายย่อย วาณิชธนกิจและลูกค้าบรรษัทอย่างทั่วถึง การร่วมเป็นพันธมิตรนี้นำจุดแข็งที่สุดของทั้งสององค์กรคือบริการธุรกรรมหลักทรัพย์ในประเทศที่ครอบคลุมกองทุน หลักทรัพย์ หุ้นกู้อนุพันธ์ และพันธบัตร การให้คำปรึกษาการลงทุนในตลาดไทยที่มีคุณภาพจากบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจบริหารสินทรัพย์ในระดับโลก เครือข่ายในภูมิภาคเอเชียที่แข็งแกร่ง ทางเลือกและแพลตฟอร์มในการบริหารสินทรัพย์ในตลาดต่างประเทศที่ครบถ้วนของดีบีเอสไพรเวทแบงก์ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าผ่านทางผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการติดต่อ และด้วยความเข้าใจในพอร์ตโฟลิโอการลงทุนของลูกค้าผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์จะสามารถใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของบุคลากรในทีมของดีบีเอสภายในประเทศ เครื่องมือและระบบ และทางเลือกในการลงทุนที่มีคุณภาพระดับมาตรฐานโลกเพื่อให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่ลูกค้าให้ตรงที่สุดกับความต้องการที่มีความเฉพาะตัว ลูกค้าธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของธนาคารดีบีเอสในประเทศไทยจะสามารถเข้าถึงและบริหารสินทรัพย์อย่างครอบคลุมได้อย่างง่ายดายจากจุดบริการเดียว นายซิม เอส ลิม หัวหน้ากลุ่มงานบุคคลธนกิจและธนบดีธนกิจของธนาคารดีบีเอสกล่าวว่า "การร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในตลาดการบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยซึ่งมีศักยภาพสูงเห็นได้จาก ความรู้ความเข้าใจขั้นสูงและการเปิดรับความคิดใหม่ๆด้านการลงทุนที่มีมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าไทย การออกกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ส่งเสริมการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ธนาคารดีบีเอสให้บริการแก่ลูกค้าไทยมานานกว่าสองทศวรรษผ่านบริษัทหลักทรัพย์ วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เราเข้าใจความต้องการและความชอบเฉพาะตัวของลูกค้า ด้วยความเชี่ยวชาญ การเชื่อมโยงภายในภูมิภาคเอเชียที่แข็งแกร่ง ศักยภาพชั้นนำทางด้านดิจิตอล ชื่อเสียงของเราในฐานะธนาคารที่ปลอดภัยที่สุดในเอเชีย และการได้รับการจัดอันดับเป็น ธนาคารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก เรามุ่งที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับลูกค้าไทย โดยมอบโอกาสที่ดีที่สุดแบบไร้รอยต่อ และโซลูชั่นด้านการบริการความมั่งคั่งทั้งภายในและนอกประเทศแก่ลูกค้า คุณภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการลงทุนในตลาดต่างประเทศ แต่แนวโน้มนี้เริ่มเปลี่ยนไป โดยเมื่อพวกเขามีความมั่งคั่งมากขึ้นความต้องการบริการบริหารความมั่งคั่งที่ครอบคลุมและกลยุทธ์การลงทุนในระดับโลกก็มีมากขึ้นตาม ในปัจจุบันสิ่งที่ลูกค้าผู้ลงทุนรายใหญ่ต้องการคือ "บริการจากจุดเดียว" ที่สามารถให้คำปรึกษาที่น่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์และทางออกสำหรับการลงทุนเพื่อบริหารความมั่งคั่ง รวมถึงการเชื่อมโยงประสบการณ์ในตลาดในและต่างประเทศแบบไร้รอยต่อ ซึ่งนับเป็นช่องว่างที่ดีบีเอสสามารถเติมเต็มให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ " ธนาคารดีบีเอสได้ดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2541 ในปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ถือใบอนุญาตการดำเนินกิจการหลักทรัพย์เต็มรูปแบบและยืนหยัดเป็นเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย ในปี 2561 ธนาคารดีบีเอสไพรเวทแบงก์ได้รับรางวัล "ไพรเวทแบงก์ที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก" โดย Global Finance และ "ไพรเวทแบงก์ที่ดีที่สุดด้านนวัตกรรม" สำหรับการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลโดย The Banker สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านต่อได้ที่ https://go.dbs.com/thailand. คำบรรยายภาพ (จากซ้ายไปขวา) คุณภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และคุณซิม เอส ลิม หัวหน้ากลุ่มงานบุคคลธนกิจ และธนบดีธนกิจ ธนาคารดีบีเอส เปิดตัวการร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างดีบีเอส ไพรเวทแบงก์ และบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ดีบีเอส ตั้งเป้าเติบโตธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเป็นเท่าตัวในประเทศไทย ภายในปี 2566 เกี่ยวกับดีบีเอส ดีบีเอสเป็นกลุ่มผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในเอเชียที่มีสำนักงานใน 18 ประเทศ มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนที่ประเทศสิงคโปร์ ดีบีเอสอยู่ในสามตลาดหลักที่กำลังเติบโตในเอเชีย ได้แก่ จีน (Greater China) ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคเอเชียใต้ ธนาคารได้รับการจัดอันดับเครดิต "AA-" และ "Aa1" ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในโลก ดีบีเอสได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำระดับโลกในฐานะ "ธนาคารที่ดีที่สุดในโลก" (World's Best Bank) โดย Euromoney และเป็น "ธนาคารยอดเยี่ยมแห่งปี" (Best Bank in the World) โดย The Banker และ "ธนาคารยอดเยี่ยมที่สุดในโลก" (Best Bank in the World) โดย Global Finance ธนาคารฯ อยู่ในระดับแนวหน้าในด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธนาคารแห่งอนาคต โดยได้รับการขนานนามว่าเป็น "ธนาคารดิจิทัลที่ดีที่สุดในโลก"(World's Best Digital Bank) โดย Euromoney นอกจากนี้ดีบีเอสยังได้รับรางวัล" ธนาคารที่ปลอดภัยที่สุดในเอเชีย" (Safest Bank in Asia) โดย Global Finance เป็นเวลาสิบปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2552 ถึงปี 2561 ดีบีเอสให้บริการเต็มรูปแบบทั้งในด้านลูกค้าส่วนบุคคลวาณิชธนกิจ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และกลุ่มลูกค้าบรรษัท ในฐานะธนาคารเติบโตที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ดีบีเอสเข้าใจถึงความต้องการของการดำเนินธุรกิจในตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดีบีเอสมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าและสร้างผลประโยชน์ต่อชุมชนผ่านการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม อีกทั้งยังได้ก่อตั้งมูลนิธิด้วยทุน 50 ล้านเหรียญสิงคโปร์เพื่อเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมในประเทศสิงคโปร์และทั่วเอเชีย ด้วยเครือข่ายการดำเนินงานที่กว้างขวางในภูมิภาคเอเชียที่เน้นการมีส่วนร่วมและเพิ่มขีดความสามารถของพนักงาน ดีบีเอสนำเสนอโอกาสที่น่าตื่นเต้นในการทำงาน ธนาคารฯ ส่งเสริมความรักในงาน ความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณในการทำงานให้พนักงานทั้งหมด 27,000 คน กว่า 40 สัญชาติ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.dbs.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ