JMT ส่งซิกครึ่งหลังปี 62 ผลงานท็อปฟอร์ม จ่อปิดดีลซื้อหนี้ใน Q3/62 เพิ่มอีก 6,000 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 24, 2019 15:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--IR PLUS JMT ผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังท็อปฟอร์ม เตรียมประกาศปิดดีลซื้อหนี้เพิ่มในช่วง Q3/62 มูลค่า 6,000 ล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรกมีพอร์ตบริหารหนี้รวมอยู่ที่ 148,000 ล้านบาท ย้ำหนี้ด้อยคุณภาพในระบบยังมีอยู่จำนวนมาก จึงคาดจะใช้เงินลงทุนซื้อหนี้ 4,500 ล้านบาทได้ตามแผน ขณะที่ ตัดต้นทุนกองหนี้กองใหญ่หมดแล้ว หนุนผลงานปี 62 โต 50% กำไรทุบสถิติใหม่ ตามเป้าหมายที่วางไว้ นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากแผนการตัดต้นทุนของกองหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหญ่ครบทั้งจำนวน สนับสนุนผลประกอบการในช่วงโค้งสุดท้ายของปีโดดเด่น ขณะที่ ในไตรมาส 3/2562 เดินหน้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เพื่อซื้อกองหนี้มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท คาดได้ผลสรุปเร็วๆ นี้ และมีกองหนี้ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มภาพรวมสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระบบยังคงมีอยู่จำนวนมาก (Non-Performing Loan : NPL) โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2562 สถาบันการเงินต่างๆ มีแผนขายหนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสของ JMT ได้รับอานิสงส์ในการซื้อหนี้เข้ามาเติมพอร์ต สำหรับเงินลงทุนในปีนี้ที่วางไว้ 4,500 ล้านบาท คาดใช้หมดตามเป้าหมาย โดยในงวดครึ่งปีแรกนี้ใช้เงินลงทุนไปแล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท มีพอร์ตบริหารหนี้รวมอยู่ที่ 148,000 ล้านบาท เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพในประเทศไทยแบบที่ไม่มีหลักประกัน "ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง JMT รับปัจจัยบวกจากแผนการตัดต้นทุนในกองหนี้ก้อนใหญ่หมดในช่วงไตรมาส 3 สะท้อนความสามารถในการบริหารงานและการจัดเก็บหนี้ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่ม ทั้งหนี้แบบไม่มีหลักประกัน และการรุกหนี้แบบมีหลักประกันเข้ามาบริหารเพิ่มเติม โดยให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของหนี้มากกว่าจำนวน เพื่อการเติบโตของกำไรเป็นสำคัญ และคาดว่าจะใช้เงินลงทุนได้ตามแผนที่วางไว้ สนับสนุนภาพรวมรายได้และกำไรทั้งปี 2562 คาดเติบโต 50% จากปี 2561 รายได้รวมอยู่ที่ราว 1,886 ล้านบาท กำไรสุทธิ 506 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร" นายสุทธิรักษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ