กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--ไออาร์ พลัส
GCAP ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2562 โตกว่างวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 41.32 ลบ. โตกว่า 21.52% มีรายได้รวม 264.68 ลบ. เพิ่มขึ้น 18.70% โดยมียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่รวมจำนวน 902 ลบ. เพิ่มขึ้น 7% "สเปญ จริงเข้าใจ" กรรมการผู้จัดการ คาดแนวโน้มผลงานโค้งสุดท้ายของปีฟอร์มสวย หนุนสินเชื่อใหม่ทั้งปี 62 ทำได้ตามแผน 1,500 ลบ. รายได้ทั้งปีมาตามนัดโต 20-30% ระบุเช่าซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรไปได้สวย จับตาปีหน้า "สบายใจมันนี่" วางเป้าปล่อยสินเชื่อ 1,500 ลบ. หนุนธุรกิจโดดเด่น พร้อมเตรียมออกผลิตภัณฑ์แรกช่วงปลายปีนี้
นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯในงวดไตรมาส 3/2562 มียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่รวมจำนวน 902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดการปล่อยสินเชื่อ 319 ล้านบาท โดยสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อใหม่ของ GCAP แบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ 57% และสินเชื่อส่วนบุคคลและนิติบุคคล 43%
ในงวดไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 264.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.69 ล้านบาท (+ 18.70%) (Q3 2561 - 222.96 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิ 41.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.32 ล้านบาท (+21.52%) (Q3 2561 - 34 ล้านบาท) ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่รวมจำนวน 902 ล้านบาท (+ 7%) (Q3 2561 843 ล้านบาท)
"ผลงานไตรมาส 3/2562 ออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลังจากที่ผ่านมาบริษัทใช้กลยุทธ์พื่อลดความเสี่ยงด้วยการกระจายประเภทของสินเชื่อไม่ให้กระจุกตัว ล่าสุดบริษัทได้เปิดให้บริการสินเชื่อธุรกิจแฟ็คเตอริง เป็นประเภทสินเชื่อที่เหมาะกับกิจการที่มีลูกหนี้การค้าไปขายให้กับบริษัทที่ทำแฟ็คเตอริง เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนใช้จ่ายในกิจการระยะเวลาอันสั้น เป็นการนำบัญชีลูกหนี้การค้าที่ยังไม่ครบกำหนดวันรับเงิน มาหมุนเป็นเงินลงทุนก่อน เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาเสริมรายได้ของบริษัทให้เติบโตแข็งแกร่งในอนาคต" นายสเปญ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2562 คาดว่าจะเติบโตดีที่สุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทฯได้เดินหน้าขยายตลาดสินเชื่อเช่าซื้อ ผ่านการเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคอุตสาหกรรมการเกษตร และภาคธุรกิจท่องเที่ยว ให้มีความหลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันแผนการดำเนินธุรกิจช่วงที่เหลือจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด โดยการติดตามเจรจาหนี้สินจากลูกค้าอย่างใกล้ชิดและการใช้บริษัทบริหารติดตามหนี้ภายนอกเสริมอีกแรง หลังจากปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับโครงสร้างและระบบการทำงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คาดว่าการปรับปรุงดังกล่าวจะผลักดันการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ คาดสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อจะเติบโตสูงขึ้นจากการขยายฐานลูกค้า อีกทั้งคู่ค้าในส่วนของเครื่องจักรกลทางการเกษตรจะออกสินค้าใหม่ ทำให้บริษัทคาดว่าสินเชื่อเช่าซื้อจะเพิ่มขึ้นตามสินค้าใหม่ด้วย โดยบริษัทฯได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีปล่อยสินเชื่อและการเก็บค่างวดผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นในการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้มั่นใจว่าจะรักษา NPL ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 8%
ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะเร่งออกโปรดักส์แรกจาก "สบายใจมันนี่" ซึ่ง GCAP ได้เข้าร่วมลงทุนกับ 9F International Holding PTE. LTD (9F) ที่เป็นบริษัททางการเงินชั้นนำจากประเทศจีน เพื่อให้บริการปล่อยสินเชื่อแบบ Digital Lending ซึ่งประกอบด้วยสินเชื่อส่วนบุคคลรายย่อยเป็นหลักนั้น ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้บริการ คาดจะออกผลิตภัณฑ์แรกในช่วงปลายปีนี้ ขณะนี้มีพันธมิตรกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว 3 กลุ่ม และได้ Managing Director แล้ว พร้อมเริ่มงานธันวาคมนี้ โดยในปี 2563 สบายใจมันนี่ วางเป้าหมายปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 1,500 ล้านบาท