ประเมินสถานการณ์ระเบิดที่อำเภอหาดใหญ่ต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและตลาดการเงิน

ข่าวทั่วไป Monday April 11, 2005 09:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--สำนักวิจัยไทยธนาคาร จากเหตุการณ์ระเบิดสถานที่ชุมชนในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมกันถึง 3 จุด ได้แก่ สนามบินหาดใหญ่, ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ และโรงแรมในใจกลางเมือง เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2548 ที่ผ่านมานั้น และยังมีเหตุการณ์รุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักวิจัย ธ.ไทยธนาคาร ประเมินผลกระทบ (เบื้องต้น) ต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี 2548 จะส่งผลด้านจิตวิทยาเกี่ยวกับความกังวลต่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการเดินทางมา3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย รวมถึงจังหวัดสงขลา เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของการท่องเที่ยวมีความอ่อนไหวง่ายต่อเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น คุณมินทรา รัตยาภาส หัวหน้าส่วนวิเคราะห์อุตสาหกรรม สำนักวิจัย ธนาคารไทยธนาคาร กล่าวว่า หากพิจารณาโครงสร้างการท่องเที่ยวของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประมาณ 55% เป็นชาวไทย อีกประมาณ 45% เป็นชาวต่างประเทศ นอกจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางสู่อ.หาดใหญ่ ยังมีสัดส่วนประมาณ 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหมดที่เดินทางมาไทย และมีสัดส่วนประมาณ 13% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางสู่ภาคใต้ สำนักวิจัย มีความเห็นว่า เหตุระเบิดดังกล่าว จึงน่าจะมีผลต่อการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศน้อยกว่านักท่องเที่ยวชาวไทย สำนักวิจัย ได้ประเมินผลกระทบเหตุการณ์ดังกล่าวต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี 2548 โดยแบ่งระดับความรุนแรงของผลกระทบเป็น 2 กรณี ดังนี้ กรณีที่ 1 สำนักวิจัย มีความเห็นว่า หากรัฐบาลสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศให้กลับคืนได้โดยเร็ว รวมทั้งมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากที่ประกาศยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกับในช่วงการประชุมเอเปค สำนักวิจัย คาดว่า จะมีผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศสู่อำเภอหาดใหญ่ในระดับปานกลาง หรือมีผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 30% ขณะเดียวกันผลลบจากเหตุดังกล่าว อาจส่งผลต่อเนื่องสู่จังหวัดท่องเที่ยวภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันในระยะสั้น โดยเฉพาะการเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงที่เหตุการณ์ดังกล่าว น่าจะส่งผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างชัดเจน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ประมาณ 2.24 ล้านคน ลดลงประมาณ 13.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2547 หรือลดลงจากประมาณการเดิมจากผลกระทบเหตุการณ์สึนามิ ประมาณ 90,000 คน และคาดว่าจะส่งผลให้ทั้งปี 2548 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 11.24 ล้านคน ลดลงประมาณ 4.2% เมื่อเทียบกับปี 2547 กรณีที่ 2 สำนักวิจัย มีความเห็นว่า เหตุระเบิดดังกล่าว อาจขยายผลให้เกิดความรุนแรงในจังหวัดภาคใต้อื่นตามมา ซึ่งจะส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้เลวร้ายลงไปอีก ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ของรัฐบาล ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้กลับมาได้ในระยะสั้น สำนักวิจัย คาดว่า จะมีผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศสู่อำเภอหาดใหญ่ในระดับค่อนข้างรุนแรง หรือมีผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 70% ซึ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในไตรมาส 2 ประมาณ 2.18 ล้านคน ลดลงประมาณ 15.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2547 หรือลดลงจากประมาณการเดิมประมาณ 143,000 คน ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งปี 2548 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 11.15 ล้านคน ลดลงประมาณ 4.9% ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาสำนักวิจัย ธนาคารไทยธนาคาร และ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที จำกัด กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่อำเภอหาดใหญ่ซึ่งเป็นการขยายตัวจากความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนโดยทั่วไป จึงมีผลให้แนวโน้มปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ซบเซาลง โอกาสที่ดัชนีจะปรับมาอยู่ที่ระดับ 900 ภายในปีนี้เป็นไปได้น้อยลง แม้นปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะยังดีอยู่ก็ตาม ในส่วนของตลาดปริวรรตเงินตรา เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าทดสอบระดับ 41 บาทต่อดอลลาร์ได้ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักจากการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ แต่ในระยะยาวแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ยังเป็นขาลงอยู่ การท่องเที่ยวของภาคใต้และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องมีผลกระทบอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ ส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศคาดว่าจะลดลงประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาทในกรณีเลวร้ายที่สุด เมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2547 และลดลงประมาณ 7.7 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับประมาณการรายได้จากการท่องเที่ยวเดิม คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 0.2% ของ GDP ในกรณีควบคุมสถานการณ์ได้บ้าง รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศคาดว่าจะลดลงประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2547 และลดลง 4.8 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับประมาณการรายได้จากการท่องเที่ยวเดิม คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 0.1% ของ GDPแต่สิ่งที่ทุกคนจะช่วยกันทำให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายไปกว่าเดิม คือ การสร้างความเชื่อมั่นและพยายามดำเนินชีวิตตามปกติ มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมและการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษจะทำให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็ว การปฏิบัติการก่อการร้ายแม้นสร้างความปั่นป่วนและเสียหายทางเศรษฐกิจได้ แต่ในที่สุดจะเป็นจุดเริ่มต้นของความพ่ายแพ้เพราะมวลชนจะไม่เอาด้วย ประมาณการจำนวน - รายได้ นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาประเทศไทยในปี 2548 ไตรมาส 1/48 ไตรมาส 2/48 ไตรมาส 3/48 ไตรมาส 4/48 ทั้งปี 2548 กรณีผลกระทบสึนามิ1 จำนวน (คน) 2,670,000 2,330,000 2,832,000 3,563,000 11,395,000 การขยายตัว (%: Y-O-Y) -10.7 -9.7 -1.9 8.8 -2.8 รายได้ (ล้านบาท) 85,440 74,560 90,624 114,016 364,640 กรณีเหตุระเบิดที่อ.หาดใหญ่ ผลกระทบปานกลาง 30% จำนวน (คน) 2,670,000 2,240,000 2,785,000 3,547,000 11,424,000 การขยายตัว (%: Y-O-Y) -10.7 -13.1 -3.5 8.3 -4.2 รายได้ (ล้านบาท) 85,440 71,680 89,120 113,504 359,744 ผลกระทบรุนแรง 70% จำนวน (คน) 2,670,000 2,187,000 2,759,000 3,536,000 11,152,000 การขยายตัว (%: Y-O-Y) -10.7 -15.2 -4.4 8 -4.9 รายได้ (ล้านบาท) 85,440 69,984 88,288 113,152 356,864 ที่มา : สำนักวิจัย ธ.ไทยธนาคาร หมายเหตุ 1/ ประมาณการเมื่อ 10 ก.พ.2548--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ