รมช.ธรรมนัส พร้อมรองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตามโครงการประชารัฐสร้างไทย

ข่าวทั่วไป Monday February 3, 2020 10:06 —ThaiPR.net

รมช.ธรรมนัส พร้อมรองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตามโครงการประชารัฐสร้างไทย กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน "ประชารัฐสร้างไทย พัฒนาปักษ์ใต้ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน" ณ สถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเยี่ยมชมสถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร กิจกรรมการรับซื้อน้ำยางสดของสถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร ติดตามผลการดำเนินงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนประชารัฐสร้างไทย ชมการดำเนินงานเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน และมอบนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาล ในโครงการประชารัฐสร้างไทย ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมภายหลังว่า การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน จากนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น มีความต้องการให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นและยั่งยืน จึงได้มีการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) แก่เกษตรกร เมื่อเกษตรกรได้รับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว ยังได้มีการจัดทำโครงการฝึกอบรมก่อนมอบหนังสือ ส.ป.ก.4-01 ด้วย เกษตรกรนั้นจะได้รับความเสมอภาคทางสังคม มีโอกาสในการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ มีที่ทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมายพร้อมทั้งหาช่องทางการจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของพี่น้องเกษตรกร โดยมีองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) มาสนับสนุนและเสริมสร้างช่องทางการตลาดให้เกษตรกร นำผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมาจำหน่ายโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และในปัจจุบันได้มีการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับทางบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยยกระดับผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของเกษตรไทย บนเครื่องบินของการบินไทยและสายการบินลูกค้ามากกว่า 60 สายการบิน โดยอาศัยตราสินค้าของ "ครัวการบินไทย" ที่มีความเข้มแข็งและน่าเชื่อถือ ในระดับนานาชาติ ทั้งนี้จากที่กล่าวมาข้างต้นจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร ในการสร้างความมั่นคงทางรายได้และต่อยอดสู่ความยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และภายในงานยังมีการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) แก่เกษตรกร จำนวน 30 ราย เพื่อให้เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพทางการเกษตรในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ