กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--กทม.
ผลประชุม WIREC 2008 ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี. กทม.ร่วมก่อเครือข่ายพัฒนาด้านพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียน เห็นพ้องให้พัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีพลังงาน ดึงเอกชนร่วมลงทุน พร้อมนำประสบการณ์ประเทศต่างๆ ปรับใช้ในการวิจัยและพัฒนาพลังงานทดแทน และจะเร่งหารือเปลี่ยนพลังงานลมเป็นไฟฟ้าในกรุงเทพ
ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา 6 มี.ค.51 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น: นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุม Washington International Renewable Energy Conference (WIREC 2008) ว่า จากการร่วมประชุมเกี่ยวกับพลังงานทดแทน พลังงานทางเลือกหรือพลังงานหมุนเวียนตลอดระยะเวลา 3 วัน คือระหว่างวันที่ 4-6 นั้น ได้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานทางเลือกมากมาย ทั้งประเทศที่ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาพลังงานทดแทน และประเทศที่กำ ลังพัฒนาพลังงานทดแทน โดยผลการประชุมหลักๆ เป็นเรื่องของการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและระหว่างเมือง โดยเฉพาะเมืองหรือประเทศกลุ่มที่กำลังพัฒนาแถบทวีปเอเชีย แอฟริกา ลาตินอเมริกา ใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1.การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งบุคลากรภาครัฐ เอกชน องค์กรต่างๆ ที่จะส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ ความสามารถในเรื่องพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียน รวมถึงพลังงานสะอาด เพื่อให้เป็นทางเลือกในการใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ให้ผ่านวิกฤติภาวะโลกร้อน 2.การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนส่งเสริมงบประมาณการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียน พร้อมกับร่วมลงทุนกับภาครัฐและภาคธุรกิจต่างๆ ในการผลิตพลังงานเหล่านั้น และ 3.การรับประสบการณ์ในแนวทางส่งเสริมพลังงานทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพลังงานสะอาด พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานชีวภาพ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครจะได้นำแนวทางต่างจากประสบการณ์ที่ได้จากการประชุมนี้ไปประยุกต์ใช้ต่อไป
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจะนำประสบการณ์จากการประชุมฯ ไปปรับใช้กับโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้วให้เกิดความมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถนำประโยชน์ที่ได้จากพลังงานที่ผลิตเองไปใช้อย่างมีประสิทธิผล เช่น โครงการนำร่องผลิตพลังงานจากดวงอาทิตย์ หรือโซล่าเซลล์เป็นน้ำร้อน ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 12 แห่ง โครงการผลิตไบโอแก๊ส ซึ่งเป็นโครงการนำร่องร่วมกับกระทรวงพลังงาน โดยดำเนินการในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร และขยายผลไปยังตลาด 5 แห่ง คือ ตลาดประชานิเวศน์ ตลาดคลองเตย ปากคลองตลาด ตลาดบางกะปิ และตลาดบางแค และโครงการไบโอดีเซลตามแนวพระราชดำริ ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการไปยังโรงเรียนในสังกัดทุกแห่ง จำนวน 435 แห่ง พร้อมเครือข่ายพันธมิตร ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ เพื่อรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้วจากบ้านเรือนนำไปผลิตไบโอดีเซล ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ร่วมกับ บ.บางจาก จำกัด (มหาชน) ในการผลิตไบโอดีเซลตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากกลับมายังประเทศไทย จะเรียกประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์พลังงานและพัฒนาพลังงานทดแทนของกรุงเทพมหานคร มาหารือเพื่อศึกษาแนวทางการเปลี่ยนพลังงานลมเป็นพลังงานไฟฟ้า รวมถึงหารือแนวทางการกำหนดให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร บุคลากรของกรุงเทพมหานคร ใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือกอย่างกว้างขวางต่อไป