ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ EXIM และ KTB เป็น 'แนวโน้มมีเสถียรภาพ’ และคงอันดับเครดิตสากล

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 23, 2020 15:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating- IDR) ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เป็น แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) จาก แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก (Positive Outlook) พร้อมกันนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) ของ EXIM และ KTB และคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ KTB การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวในครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ฟิทช์ได้ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยเป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” จากเดิม “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก” เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากประกาศอันดับเครดิตล่าสุดหัวข้อ “Fitch Revises Outlook on Thailand to Stable; Affirms at 'BBB+’ ” ลงวันที่ 17 มีนาคม 2563 อันดับเครดิตอื่นของ EXIM และ KTB ไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอันดับเครดิตในครั้งนี้ สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ EXIM และ KTB พิจารณาจากการคาดการณ์ของฟิทช์ว่ารัฐบาลไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) จะให้การสนับสนุนแก่ธนาคาร ดังนั้นอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารทั้ง 2 แห่ง จึงมีปัจจัยในการพิจารณาอันดับเครดิตมาจากอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของแต่ละธนาคาร อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ EXIM อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทที่สำคัญเชิงนโยบายของธนาคาร ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างธนาคารกับรัฐบาล และสถานะทางกฎหมายของธนาคารในฐานะที่เป็นธนาคารรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฏหมายเฉพาะ อีกทั้ง EXIM ยังมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดและมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อให้การสนับสนุนภาคส่งออกและนำเข้า รวมถึงธุรกรรมด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ สถานะทางการเงินของ EXIM อยู่ในระดับที่ดีจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาล (Extraordinary support) อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล เช่น การรับเงินชดเชยรายได้จากการดำเนินงานในโครงการตามนโยบายของภาครัฐ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จากประกาศอันดับเครดิตล่าสุดหัวข้อ “Fitch Affirms Thailand’s EXIM at 'BBB+’; Outlook Positive” ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ KTB มีปัจจัยพิจารณาหลักมาจากอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของธนาคาร โดยฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การความช่วยเหลือทางการเงินเป็นกรณีพิเศษ (extraordinary support) แก่ KTB ในกรณีที่มีความจำเป็น KTB เป็น 1 ใน 5 ธนาคารพาณิชย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุให้เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศ (Domestically Systematic Important Bank หรือ DSIB) นอกจากนี้ฟิทช์ยังเชื่อว่า KTB มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อรัฐบาลไทย เนื่องจาก KTB เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ (55%) อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ KTB สอดคล้องกับแนวทางการจัดอันดับธนาคารที่มีอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากประกาศอันดับเครดิตล่าสุดหัวข้อ “Fitch Affirms Krung Thai Bank; Outlook Stable” ลงวันที่ 12 เมษายน 2562 และ “Fitch Upgrades Thai EXIM’s ST Rating to 'F1’; Revises Outlooks on EXIM, IBANK, and KTB to Positive” ลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2562 ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต ฟิทช์เชื่อว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ EXIM และ KTB จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย โดยผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ EXIM และ KTB จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตของประเทศไทยในกรณีที่ฟิทช์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมุมมองของโอกาสที่ธนาคารแต่ละแห่งจะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากรัฐบาล การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าธนาคารมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม KTB และ EXIM มีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของโครงสร้างธรรมาภิบาล (Governance Structure) ที่ระดับ 4 เนื่องจากมีโอกาสที่ภาครัฐจะมีอิทธิพลต่อการกำกับดูแลกิจการและความเสี่ยง (risk governance) จากการถือหุ้นโดยรัฐบาลในธนาคารรวมถึงจะสามารถมีอิทธิพลต่อคณะกรรมการและผู้บริหารซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบทางลบต่อโครงสร้างเครดิตและสัมพันธ์ต่ออันดับเครดิตเช่นเดียวกับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตอื่น รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมด มีดังนี้ EXIM: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'BBB+’ ; ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากเดิม แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวกอันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '2’อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ 'BBB+’ KTB อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ 'BBB’; ปรับ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากเดิม แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวกอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F2’อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '2’อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ 'BBB’

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ