กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
ดร.อภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาด และการเฝ้าระวังของไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ทางบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากลักษณะธุรกิจของบริษัทเป็นการให้บริการงานวิชาการ ประกอบด้วย การศึกษาความเหมาะสมของโครงการ การวางแผนแม่บท ออกแบบทางด้านวิศวกรรม การบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งเป็นงานทางวิชาการ โดยงานหลายส่วนปฏิบัติตามมาตรการ Work
From Home ได้
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้กำหนดมาตรการรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 เช่น ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ภายในอาคารและกำหนดให้พนักงานบางส่วน Work From Home เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของพนักงาน และใช้ประชุมผ่าน TEAMS Conference การจัดเก็บเอกสารบน Private Cloud ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานของ TEAMG เป็นไปอย่างราบรื่นตามแผนที่วางไว้
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทยังตั้งเป้าเติบโต 10% จากปี 2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,846 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทวางแผนที่จะรับงานใหม่ในปีนี้อีก 2,000 ล้านบาท ทั้งงานในภาครัฐและเอกชนประกอบกับบริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อีกกว่า 3,800 ล้านบาท อาทิ งานศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยายจังหวัด ระยอง จันทบุรี และตราด โครงการออกแบบก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำอีมูน งานบริหารโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา งานควบคุมงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ
อีกทั้งในช่วงเร็วๆ นี้ บริษัทจะลงนามสัญญาโครงการควบคุมการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่มีมูลค่าในส่วนของบริษัทเกือบ 1,000 ล้านบาท โดยโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงดังกล่าว มีระยะทางรวม 220 กิโลเมตร มีแนวเส้นทางเชื่อมโยงสนามบินสำคัญของประเทศ เริ่มต้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง วิ่งตรงเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ผ่านสถานีมักกะสัน เลี้ยวเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าต่อไปตามแนวทางรถไฟสายตะวันออก ข้ามแม่น้ำบางปะกงเข้าสู่สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และเข้าสู่สนามบินอู่ตะเภาเป็นสถานีสุดท้าย จำนวน 9 สถานี ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในแนวเส้นทางรถไฟ และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงเวลาวิกฤตได้อีกทางหนึ่งด้วย
TEAMG ลั่นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง จ่อลงนามสัญญาโครงการคุมการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 25, 2020 15:20 —ThaiPR.net
กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
ดร.อภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาด และการเฝ้าระวังของไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ทางบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากลักษณะธุรกิจของบริษัทเป็นการให้บริการงานวิชาการ ประกอบด้วย การศึกษาความเหมาะสมของโครงการ การวางแผนแม่บท ออกแบบทางด้านวิศวกรรม การบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งเป็นงานทางวิชาการ โดยงานหลายส่วนปฏิบัติตามมาตรการ Work
From Home ได้
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้กำหนดมาตรการรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 เช่น ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ภายในอาคารและกำหนดให้พนักงานบางส่วน Work From Home เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของพนักงาน และใช้ประชุมผ่าน TEAMS Conference การจัดเก็บเอกสารบน Private Cloud ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานของ TEAMG เป็นไปอย่างราบรื่นตามแผนที่วางไว้
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทยังตั้งเป้าเติบโต 10% จากปี 2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,846 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทวางแผนที่จะรับงานใหม่ในปีนี้อีก 2,000 ล้านบาท ทั้งงานในภาครัฐและเอกชนประกอบกับบริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อีกกว่า 3,800 ล้านบาท อาทิ งานศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยายจังหวัด ระยอง จันทบุรี และตราด โครงการออกแบบก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำอีมูน งานบริหารโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา งานควบคุมงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ
อีกทั้งในช่วงเร็วๆ นี้ บริษัทจะลงนามสัญญาโครงการควบคุมการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่มีมูลค่าในส่วนของบริษัทเกือบ 1,000 ล้านบาท โดยโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงดังกล่าว มีระยะทางรวม 220 กิโลเมตร มีแนวเส้นทางเชื่อมโยงสนามบินสำคัญของประเทศ เริ่มต้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง วิ่งตรงเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ผ่านสถานีมักกะสัน เลี้ยวเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าต่อไปตามแนวทางรถไฟสายตะวันออก ข้ามแม่น้ำบางปะกงเข้าสู่สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และเข้าสู่สนามบินอู่ตะเภาเป็นสถานีสุดท้าย จำนวน 9 สถานี ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในแนวเส้นทางรถไฟ และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงเวลาวิกฤตได้อีกทางหนึ่งด้วย