ไทยออยล์แจ้งเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 และอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 31, 2020 09:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--ไทยออยล์ นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) แจ้งภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ นัดพิเศษ ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีการหารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีการขยายเป็นวงกว้างและต่อเนื่อง โดยได้พิจารณาประเด็นต่างๆ อย่างรอบด้านด้วยความรอบคอบและเห็นว่า เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการและนโยบายของรัฐในการควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของผู้ถือหุ้น จึงเห็นควรดำเนินการตามข้อแนะนำของหน่วยงานกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนที่เกี่ยวข้อง โดยมีมติดังนี้ ให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะคลี่คลาย โดยการเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและเหมาะสม คณะกรรมการบริษัทฯ จะพิจารณากำหนดวันประชุมและระเบียบวาระการประชุม รวมทั้งวันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ขึ้นใหม่ และจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไปอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแทนการจ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลประกอบการ 6 เดือนหลังของปี 2562 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นตามกำหนดเดิมในวันที่ 21 เมษายน 2563 โดยบริษัทฯ จะเสนอไม่จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการ ปี 2562 อีก ทั้งนี้ บริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อย่างใกล้ชิด เพื่อจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 โดยเร็วต่อไป ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บน้ำมันดิบ น้ำมันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ