กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ หรือ GPI มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวโดดเด่น เตรียมรับรู้รายได้จากการจัดงานใหญ่ 'บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020’ เมื่อวันที่ 13-26 กรกฎาคมที่ผ่านมา และรอรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงขยะแปรรูป ผ่านการถือหุ้น 25.45% ในบริษัท ทรู เอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงที่น่าประทับใจตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะสามารถกลับมาสร้างผลกำไรที่ดีได้อีกครั้ง เมื่อเทียบกับภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยต่อการจัดงานแสดงสินค้าบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 ส่งผลให้ต้องเลื่อนการจัดงานดังกล่าวออกไปเป็นเมื่อวันที่ 13 - 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หลังจากบริษัทฯ ได้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 สำเร็จลุล่วงด้วยดี ภายใต้การจัดงานแบบ New normal และมาตรการคัดกรองผู้เข้าชมงานอย่างเข้มงวด จะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้จากการจัดงานดังกล่าวเข้ามาในช่วงไตรมาส 3
ส่วนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการการลงทุนในธุรกิจใหม่ด้านโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน หลังจากได้เข้าถือหุ้น 25.45% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า เพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงขยะแปรรูป (RDF) จังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและได้รับ Adder 3.50 บาทต่อหน่วย (Kwh) เพิ่มจากค่าไฟฐานเป็นเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งจะเพิ่มความมั่นคงแก่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในระยะยาว ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีความคืบหน้าตามแผนงาน คาดว่าแล้วเสร็จและเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปีนี้
“แม้ภาพรวมครึ่งปีแรกไม่มีรายได้จากงานมอเตอร์โชว์ แต่ฐานะการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่งและไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน ปัจจุบันเราพร้อมกลับมาเติบโตอย่างมั่นคง หลังจากได้เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าและยังศึกษาโอกาสขยายการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลเพื่อสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต” ดร.ปราจิน กล่าว
GPI มั่นใจผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังฟื้นตัว เตรียมรับรู้รายได้งานมอเตอร์โชว์และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้า
ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 5, 2020 10:11 —ThaiPR.net
กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ หรือ GPI มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวโดดเด่น เตรียมรับรู้รายได้จากการจัดงานใหญ่ 'บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020’ เมื่อวันที่ 13-26 กรกฎาคมที่ผ่านมา และรอรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงขยะแปรรูป ผ่านการถือหุ้น 25.45% ในบริษัท ทรู เอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงที่น่าประทับใจตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะสามารถกลับมาสร้างผลกำไรที่ดีได้อีกครั้ง เมื่อเทียบกับภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยต่อการจัดงานแสดงสินค้าบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 ส่งผลให้ต้องเลื่อนการจัดงานดังกล่าวออกไปเป็นเมื่อวันที่ 13 - 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หลังจากบริษัทฯ ได้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 สำเร็จลุล่วงด้วยดี ภายใต้การจัดงานแบบ New normal และมาตรการคัดกรองผู้เข้าชมงานอย่างเข้มงวด จะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้จากการจัดงานดังกล่าวเข้ามาในช่วงไตรมาส 3
ส่วนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการการลงทุนในธุรกิจใหม่ด้านโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน หลังจากได้เข้าถือหุ้น 25.45% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า เพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงขยะแปรรูป (RDF) จังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและได้รับ Adder 3.50 บาทต่อหน่วย (Kwh) เพิ่มจากค่าไฟฐานเป็นเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งจะเพิ่มความมั่นคงแก่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในระยะยาว ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีความคืบหน้าตามแผนงาน คาดว่าแล้วเสร็จและเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปีนี้
“แม้ภาพรวมครึ่งปีแรกไม่มีรายได้จากงานมอเตอร์โชว์ แต่ฐานะการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่งและไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน ปัจจุบันเราพร้อมกลับมาเติบโตอย่างมั่นคง หลังจากได้เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าและยังศึกษาโอกาสขยายการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลเพื่อสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต” ดร.ปราจิน กล่าว