Dow เปิดตัวเม็ดพลาสติกผลิตฟิล์มชีวภาพ จากของเหลือในอุตสาหกรรมกระดาษ ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 24, 2020 09:34 —ThaiPR.net

Dow เปิดตัวเม็ดพลาสติกผลิตฟิล์มชีวภาพ จากของเหลือในอุตสาหกรรมกระดาษ ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--ดาว ประเทศไทย บริษัท ดาว (Dow) ร่วมกับคู่ค้าเปิดตัวฟิล์มพลาสติกชีวภาพใหม่ มีคุณภาพสูง คุณสมบัติเด่นบางลงแต่แข็งแรงยิ่งขึ้น และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพราะผลิตจากวัสดุเหลือทิ้งในอุตสาหกรรมกระดาษ เม็ดพลาสติกชีวภาพตัวใหม่นี้ต่างจากสินค้าที่ทำจากวัตถุดิบหมุนเวียนชนิดอื่นๆ เพราะผลิตขึ้นจากของเหลือ ไม่ได้นำพืชที่เป็นอาหารของมนุษย์มาใช้ และไม่เป็นสาเหตุของการตัดไม้ทำลายป่าเพราะไม่ต้องใช้ที่ดินในการเพาะปลูกพืชเพิ่มเติม ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัททองกวนอินดัสทรีส์ (Thong Guan Industries) หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตฟิล์มพลาสติกยืดของโลกจะใช้เม็ดพลาสติกของ Dow ที่ผลิตจากน้ำมันเหลือทิ้งในกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษซึ่งได้มาจากป่าที่ได้รับการดูแลอย่างยั่งยืน ฟิล์มพลาสติกยืดชนิดนี้ ใช้พันยึดพาเลท และลังบรรจุสินค้าต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันความเสียหาย รวมทั้งอุบัติเหตุระหว่างการขนส่ง ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของแบรนด์ตอบสนองต่อตลาดในเอเชียแปซิฟิกที่ต้องการพลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังมีค่าการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำกว่าพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากการเพาะปลูกพืชที่นิยมใช้กันทั่วไปอีกด้วย ฟิล์มพลาสติกชีวภาพนี้เรียกว่า นาโนไบโอ เป็นอีกขั้นของฟิล์มพลาสติกยืดของ Thong Guan Industries ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีน ELITE(TM) 5230GC R Enhanced Polyethylene Resins ซึ่งเป็นพลาสติกชนิด LLDPE (linear low-density polyethylene) หรือ โพลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น บัมบัง จันดรา รองประธานฝ่ายธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษของ Dow กล่าวว่า “เพื่อจะให้บรรลุเป้าการทำงานใหม่ด้านการต้านโลกร้อนของ Dow เราตั้งใจที่ใช้และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรน้อยลง และช่วยให้ลูกค้าของเราลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ Dow ยังตั้งเป้าที่จะหยุดขยะพลาสติกในธรรมชาติ โดยจะเก็บพลาสติกให้ได้ 1 ล้านตัน เพื่อนำมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลให้ได้ภายในปี 2573 ร่วมถึงส่งเสริมวงจรรีไซเคิล โดยตั้งเป้าหมายว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Dow ที่นำไปผลิตเป็นแพคเกจจิ้งจะต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ภายในปี 2578” ฟิล์มพลาสติกยืด นาโนไบโอ ดังกล่าวผลิตจากเทคโนโลยีล้ำสมัย ใช้เม็ดพลาสติกน้อยลงแต่มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น ทนทานมากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะผลิตจากไบโอแนฟทาที่มาจากน้ำมันเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษ ซึ่งช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมากเมื่อเทียบกับเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนที่ได้มาจากน้ำมันฟอลซิลแบบดั้งเดิม รวมทั้งยังน้อยกว่าพลาสติกชีวภาพจากการเพาะปลูกพืชทั่วไป ยูนิซ เชิง ผู้จัดการอาวุโสด้านการตลาด ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Dow กล่าวว่า “การเปิดตัวเม็ดพลาสติกที่ทำมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของเรา เป็นกุญแจสำคัญที่จะพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนให้ก้าวหน้าขึ้น เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ Thong Guan Industries ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยาวนานของเรา พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของเรา” “เราตั้งใจที่รักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ลูกหลานในอนาคต ความร่วมมือกับ Dow ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มาจากวัถตุดิบหมุนเวียนและส่งเสริมความยั่งยืน ด้วยเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงที่ผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติของ Dow นาโนไบโอของเราจึงสามารถลดจำนวนพลาสติกที่ใช้ในการผลิตแต่คงประสิทธิภาพสูงของสินค้าไว้ได้เหมือนเดิม สิ่งนี้ตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าและความต้องการด้านความยั่งยืน” ดาโต๊ะ อัง พูน ชวน กรรมการผู้จัดการ Thong Guan Industries กล่าว เดวิด อัง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด Thong Guan Industries กล่าวสรุปว่า “ที่ Thong Guan ความยั่งยืนไม่ใช่เป็นแค่คำพูดสวยหรู และความตั้งใจของเราไม่ได้ออกมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์อย่างเดียวเท่านั้น แต่อยู่ในกระบวนการและการใช้ทรัพยากรในแต่ละวันของเราด้วย เป็นความตั้งใจที่ชัดเจนที่จะปกป้องบ้านเกิดของเรา ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก และสร้างนวัตกรรมที่จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศให้กับลูกหลานของเรา” การผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนนี้ยังได้รับการรับรองจาก International Sustainability & Carbon Certification หรือ ISCC ว่ามาจากทรัพยากรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังสามารถหาแหล่งที่มาของวัตถุดิบได้ในทุกขั้นตอนการผลิต เกี่ยวกับ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษ หรือ Packaging and Specialty Plastics (P&SP) เป็นกลุ่มธุรกิจภายใต้ Dow ซึ่งนำเอาจุดเด่นด้านการวิจัยและพัฒนา ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระดับโลกมารวมกันเพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงให้กับผู้บริโภคในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร สุขอนามัยบุคคล โครงสร้างพื้นฐาน สินค้าอุปโภคบริโภคและการคมนาคมขนส่ง โดย P&SP เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีน โพลีเมอร์คุณภาพสูง และสารยึดติด (adhesives) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการสนับสนุนจาก Pack Studios ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและผู้ประสานความร่วมมือในการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและออกแบบพลาสติกให้สอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้จาก www.dowpackaging.com เกี่ยวกับ “Dow” ดาว (DOW) เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ (Materials Science) ซึ่งพัฒนาและผลิตวัสดุชนิดต่างๆ ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นเลิศด้านนวัตกรรม เอาใจใส่ต่อลูกค้า ให้การยอมรับบุคลากรที่หลากหลาย และ ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากที่สุดในโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันส์ทางวิทยาศาสตร์ของดาวได้แก่ พลาสติกชนิดต่างๆ เคมีภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรม สารเคลือบผิว และซิลิโคน ซึ่งเน้นสร้างความแตกต่างเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เช่น บรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง และการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบัน Dow มีฐานการผลิต 109 แห่งใน 31 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 36,500 คน โดยมียอดขายในปี 2562 ประมาณ 43 พันล้านดอลลาห์สหรัฐฯ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dow ได้ที่ www.dow.com หรือ ติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup/ เกี่ยวกับ Thong Guan Industries Thong Guan เริ่มจากเป็นธุรกิจครอบครัวเมือปี 1942 จำหน่ายชาและกาแฟภายใต้แบรนด์ 888(TM) และค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคงขึ้น โดยกว่าหลายสิบปีที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มสินค้าให้หลากหลายจากเป็นผู้ผลิตและค้าขายเครื่องดื่ม ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์สำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซียและหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีประสบกรณ์ด้านการผลิต การค้าขายและนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามากว่า 70 ปี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กัวลาลัมเปอร์ โดยเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% และมีมูลค่าการขายแต่ละปีมากกว่า 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีฐานการผลิตหลักอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย จีน และไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ