พรีมูฟเฮ!!"กรมทะเล" ลงนามความร่วมมือแนวทางแก้ไขปัญหา 3 ชุมชนต้นแบบนำร่องในพื้นที่ป่าชายเลน "วราวุธ"ย้ำรัฐบาลเร่งแก้ไข ตามแนว คทช.เพื่อประชาชน

ข่าวทั่วไป Friday November 6, 2020 14:45 —ThaiPR.net

พรีมูฟเฮ!!

ปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังที่รัฐบาลพยายามแก้ไข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานในการให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนภายใต้แนวทางและเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่ได้เร่งรัดขับเคลื่อนมาโดยตลอด โดยในวันนี้ (6 พฤศจิกายน 2563) ณ ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลนครภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) มูลนิธิชุมชนไท ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส. หรือ P-Move) ชุมชนสระต้นโพธิ์ จังหวัดภูเก็ต ชุมชนชาวเลเกาะเหลา จังหวัดระนอง และ ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิง จังหวัดกระบี่ ได้ลงนามความร่วมมือ เพื่อจัดที่ดินกว่า 15.88 ไร่ และช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภค โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต เป็นสักขีพยาน

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ย้ำว่า รัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกฝ่ายช่วยให้ความร่วมมือ เพื่อการดำเนินงานจะได้สำเร็จตามเป้าหมายโดยเร็ว ต่อไป

ที่อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาที่พี่น้องประชาชนพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขและให้การช่วยเหลือเร่งด่วนคือ ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งรัฐบาลเองมิได้นิ่งนอนใจ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาพื้นที่จัดที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลยังคงต้องรักษาสมดุลทางธรรมชาติ การอนุรักษ์ ควบคู่กับการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อให้เกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ ยังต้องเกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นธรรม ช่วยผู้ด้อยโอกาสอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสรุปผลการดำเนินการและการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้เร่งรัดให้ดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ คทช. กำหนดโดยเร็ว ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในอีกหลายพื้นที่กำลังรอการจัดการปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งตนอยากย้ำให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้มั่นใจว่า หน่วยงานภาครัฐจะร่วมมือกัน เร่งรัด ดำเนินการอย่างเต็มกำลัง ซึ่งในบางกระบวนการขั้นตอน อาจจะต้องใช้เวลาในการทำงาน จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นและร่วมมือกับหน่วยงานที่ต้องดำเนินการในพื้นที่ให้สามารถจัดการและเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นและเป็นไปตามเป้าหมายของ คทช. ต่อไป

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวภายหลังพิธีลงนามว่า นับตั้งแต่ปี 2559 โดยในปี 2559 - 2560 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้จัดที่ดินทำกินให้กับชุมชน โดยออกหนังสืออนุญาตเรียบร้อยแล้วจำนวน 12 ฉบับ เนื้อที่กว่า 14,376 ไร่ ครัวเรือนได้รับประโยชน์กว่า 1,100 ครัวเรือน และประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 3,200 คน สำหรับในปี 2561 จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ยื่นแบบคำขออนุญาตและตรวจสภาพป่ามาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาต ต่อไป ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนไว้ที่ 18,000 ไร่ นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการจัดที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยกว่า 10,789 ไร่ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 โดยระหว่างปี 2559 - 2560 ได้ออกหนังสืออนุญาตไปแล้วจำนวน 63 ฉบับ เนื้อที่กว่า 548 ไร่ มอบให้กับชุมชนจำนวน 51 ชุมชน มีครัวเรือนได้รับประโยชน์กว่า 2,029 ครัวเรือน ประชาชนได้รับประโยชน์ 7,180 คน สำหรับในปี 2562 - 2563 จะเร่งดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้ครบทั้ง 10,789 ไร่ คาดว่าจะมีชุมชนได้รับประโยชน์ทั้งสิ้นกว่า 494 ชุมชน 21,600 ครัวเรือน ประชาชนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 60,000 คน สำหรับ ในวันนี้ (6 พฤศจิกายน 2563) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ลงนามร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) มูลนิธิชุมชนไท ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส. หรือ P-Move) ชุมชนสระต้นโพธิ์ จังหวัดภูเก็ต ชุมชนชาวเลเกาะเหลา จังหวัดระนอง และ ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว จังหวัดกระบี่ เพื่อร่วมแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนต้นแบบนำร่องในพื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 3 ชุมชน 179 ครัวเรือน 484 คน เนื้อที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 15.88 ไร่ อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ ตามนโยบาย คทช. ให้ครบตามเป้าหมายที่กำหนดไว้โดยเร็ว ต่อไป

สำหรับองค์กรที่เข้าร่วมให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่นำร่องทั้ง 3 ชุมชน นายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผอ.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กล่าวในตอนท้ายว่า ทางสถาบัน จะให้การสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาชุมชน ได้แก่ การสร้างและซ่อมแซมบ้านเรือน และพัฒนาสาธารณูปโภคให้กับชุนที่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ป่าชายเลน อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันฯ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ยังคงได้รับความเดือดร้อน ในพื้นที่อื่นต่อไปในอนาคตด้วย

ด้านนางสมพร ใจหาญ ผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และชุมชนต้นแบบ 3 ชุมชนนำร่อง ได้กล่าวเสริมในที่ประชุมในตอนท้ายว่า พี่น้องประชาชนในพื้นที่นำร่องต้องขอขอบคุณท่านวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง ซึ่งในส่วนของภาคประชาชนทุกคนที่ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้ ต่างดีใจมากที่เห็นภาครัฐให้ความสำคัญและช่วยเหลือ เจรจา ไกล่เกลี่ยจนได้ข้อยุติและร่วมกันลงนามความร่วมมือกันในวันนี้ ผู้แทน P-Move และชุมชนนำร่องกล่าวแสดงความขอบคุณทั้งน้ำตา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ