บันทึกของผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น สุฮาสินี ไฮดาร์ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น

ข่าวทั่วไป Thursday January 20, 2005 11:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--แฟรนคอม เอเซีย
ระดับความเสียหายของหนึ่งในเกาะที่ผมไปเยือนนั้นฉกรรจ์มาก ตามที่ทางการได้ประกาศไว้คือหนึ่งในทุกสี่คนเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส หรือสูญเสียครอบครัว ใบหน้าของเหล่าพ่อแม่ที่เปี่ยมไปด้วยสำนึกผิดเป็นภาพที่ผมจะไม่มีวันลืมเลย พวกเขาคว้าลูกน้อยด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี แต่ท้ายที่สุดคลื่นยักษ์ก็ได้กระชากลูกๆออกจากอ้อมแขน พวกเขาถูกหลอกหลอนโดยความคิดตำหนิตนเอง และผมถูกขอให้ย้ำเตือนพวกเขาตลอดเวลาว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว ผมถูกตั้งคำถามเสมอๆ ว่ารู้สึกลำบากใจการเห็นร่างของผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะร่างของเด็กๆหรือไม่ สำหรับผมสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกลำบากใจก็คือการเฝ้ามองผู้คนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ผู้คนที่โศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของผู้อันเป็นที่รัก ใบหน้าของเด็กน้อยที่สับสน ไม่มีอะไรเลยที่จะสามารถปกป้องคุ้มครองเด็กๆเหล่านี้ได้ และคุณสามารถเห็นความกลัวที่เกาะกินจิตใจของพวกเขา ที่สำคัญที่สุด คือว่าความยิ่งใหญ่ของจิตใจของผู้คนที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างจนเหลือแต่ตัวคงไว้แต่หัวใจอันยิ่งใหญ่ที่พร้อมจะบอกเล่าแบ่งปันเรื่องราวที่ตนได้ประสบมาแก่พวกเรา
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมแปลกใจมากระหว่างรายงานข่าวคือการฟื้นตัวของพวกเด็กๆ หนึ่งในวินาทีที่สะเทือนอารมณ์ผมมากที่สุดไม่ใช่ภาพของเด็กน้อยที่เศร้าสร้อย แต่กลับเป็นภาพของเด็กที่มีความสุข วันนั้นพวกผมได้นอนเพียงแค่สองชั่วโมง ขณะเดินผ่านค่ายบรรเทาทุกข์อย่างมึนงงพลางรับฟังเรื่องราวการสูญเสียของผู้คน จู่ๆเด็กหญิงตัวน้อยอายุราว 12 ขวบก็วิ่งโผเข้าหาผม เธอจับมือผม และอวยพรสุขสันต์วันปีใหม่แก่ผม มันช่างน่าขันเหลือเกินที่เด็กหญิงคนนี้ ผู้ซึ่งพ่อสูญหาย และต้องใช้ชีวิตอยู่กับพื้นดินเปล่ากำลังปลอบโยนผม ผมผู้มีบ้านครบพร้อมและครอบครัวที่ต้องกลับไปหา ผมเดินจากมาโดยไม่สามารถเอ่ยถ้อยคำใดๆ
ผู้ชายอีกคนเล่าว่า เขาและเพื่อนบ้านพยายามกลับไปหาลูกๆเมื่อคลื่นได้สงบลง พวกเขาเดินวนรอบๆเพื่อดึงร่างไร้วิญญาณของเหล่าเด็กๆออกจากกองโคลน โดยปัดโคลนออกจากหน้าศพเพื่อระบุว่าเป็นลูกของตนหรือไม่ ก่อนจะฝังพวกเขากลับไปยังจุดเดิม ถึงแม้ผมจะไม่ได้เห็นเหตุการณ์นี้เอง แต่ใบหน้าของชายคนนั้นก็บ่งบอกว่ามันปวดร้าวเพียงใด
ในสถานการณ์เช่นนี้ ความเป็นกลางของนักข่าวก็พร่ามัวลง เพราะคุณไม่สามารถเห็นด้วยกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่นานความเจ็บปวดของผู้อื่นก็กลายเป็นความปวดร้าวของคุณเอง พ่อแม่ทุกคนคงเข้าใจความรู้สึกใจหายเมื่อค้นพบว่าลูกน้อยได้หายตัวไป โดยผมได้ตระหนักถึงระดับความตื่นตระหนกของผู้คน ที่ไม่หาลูกน้อยไม่เจอท่ามกลางความพินาศทั้งหมด ในตอนนั้นคุณอยากจะลืมเรื่องของตนเองให้ทั้งหมด ปิดกล้องและโผเข้าปลอบโยนพวกเขา ในวินาทีนั้นผมแค่อยากกลับบ้านและกอดลูกผมไว้ให้แน่น
หากต้องการเผยแพร่บทความฉบับเต็ม
สามารถติดต่อขอรับบทความได้ที่ ณัฐพร โทร 02 233 4329
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ