เต็ดตรา แพ้ค ติด 1 ใน 50 ผู้นำด้านความยั่งยืน และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 20, 2021 15:59 —ThaiPR.net

เต็ดตรา แพ้ค ติด 1 ใน 50 ผู้นำด้านความยั่งยืน และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก

เต็ดตรา แพ้ค ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 50 ผู้นำทางธุรกิจระดับโลกด้านความยั่งยืนและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก (World's 50 Sustainability And Climate Leaders) โดยวิดีโอสารคดีของบลูมเบิร์กเรื่อง "Pioneering a Sustainable Future" (ลิงก์เข้าชม) ได้ถ่ายทอดเส้นทางการดำเนินงานของเต็ดตรา แพ้ค ในฐานะบริษัทผู้นำเสนอโซลูชั่นการแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ภาพของโครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ที่ริเริ่มโดยบริษัท เต็ดตรา แพ้ค ในประเทศไทย ได้รับเลือกมาประกอบอยู่ในสารคดีบลูมเบิร์กนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโครงการที่ช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาวงจรของการรีไซเคิลอย่างยั่งยืน

โครงการ 50 Sustainability and Climate Leaders คือการขานรับจากแวดวงธุรกิจระดับสากลที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ภาวะผู้นำ และนำไปสู่การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซีรี่ส์สารคดีของบลูมเบิร์กต้องการเน้นย้ำว่า เพราะเหตุใดธุรกิจที่ยั่งยืนจึงเป็นธุรกิจที่ดีกว่าสำหรับทุกภาคส่วน นับตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ไปจนถึงภายในองค์กร ห่วงโซ่อุปทาน และชุมชนต่าง ๆ ที่ธุรกิจนั้นเข้าไปดำเนินงานอยู่

วิดีโอสารคดีเต็ดตรา แพ้ค เป็นการถ่ายทอดบทสัมภาษณ์สมาชิกในทีมผู้นำระดับโลก ที่เน้นย้ำว่าบทบาทของภาคธุรกิจอาหารในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีความจำเป็นมากขึ้นอย่างไร พวกเขายังได้อธิบายต่อว่า เพราะเหตุใดการกระตุ้นแนวทางการใช้พลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์และการประสานความร่วมมือกับทุกฝ่ายนั้น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการก้าวนำสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนและความท้าทายในหลายๆ ด้าน อาทิ ภาวะโลกร้อน การหมุนเวียนทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ

มร. อดอลโฟ โอรีฟ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เต็ดตรา แพ้ค กล่าวว่า "บริษัทของเราก่อตั้งขึ้นบนพื้นฐานปรัชญาที่ว่า บรรจุภัณฑ์ควรจะมีมูลค่ามากกว่าราคาของตัวเอง ความยั่งยืนนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานทุกสิ่งของเรามาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้ ความยั่งยืนจึงเป็นรากฐานของกลยุทธ์การดำเนินงานสู่ปี 2030 ของเราอีกด้วย เรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้รับการยกย่องจากภาคอุตสาหกรรมต่อการทำงานของเราจนถึงวันนี้ เรามีความก้าวหน้าอย่างมากในการบุกเบิกเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน อย่างไรก็ดี ด้วยวิกฤติการณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบันและความท้าท้ายด้านความมั่นคงทางอาหารที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารจำเป็นต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อก้าวสู่การพัฒนาไปอีกขั้น จุดมุ่งหมายของเราคือการนำเสนอบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก ผ่านการสร้างสรรค์กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากทรัพยากรทดแทนได้ทั้งหมดหรือใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่งสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ทุกส่วน และไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิสู่ชั้นบรรยากาศ เรามองเห็นว่านี่คือหนทางเดียวในการปกป้องทุกคุณค่า ทั้งอาหาร ผู้คน และโลกใบนี้"

วิดีโอสารคดีชุดนี้ยังใช้ภาพประกอบจากโครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ซึ่งถือเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของบริษัทเต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งดำเนินการรณรงค์ให้มีการรวบรวมและรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วเพื่อนำไปผลิตเป็นแผ่นหลังคาสำหรับก่อสร้างบ้านและที่พักพิงให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและชุมชนที่กำลังประสบความเดือดร้อนทั่วประเทศ เต็ดตรา แพ้ค เปิดตัวโครงการเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2553 ร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) โครงการได้ฉลองการดำเนินงานครบรอบ 10 ปีไปเมื่อปี พ.ศ. 2563 และยังคงส่งมอบแผ่นหลังคาไปทั่วประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน โดยกิจกรรมครั้งล่าสุดคือการบริจาคแผ่นหลังคา 300 แผ่นให้แก่ชุมชนผู้ประสบภัยในจังหวัดนครศรีธรรมราชและการบริจาคเพื่อมอบความช่วยเหลือแก่เด็กนักเรียนในจังหวัดเลย

"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เห็นแผ่นหลังคาของเราในสารคดีของบลูมเบิร์ก" มร.เบิร์ท ยาน โพสท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "เราภาคภูมิใจกับความสำเร็จของโครงการหลังคาเขียวตลอดหลายปีที่ผ่านมา โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการริเริ่มหลักของบริษัทในการบริหารจัดการกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วอย่างถูกต้อง และทำให้ประเทศไทยอยู่ในแผนที่โลกของการเคลื่อนไหวด้านความยั่งยืน"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ