กรมที่ดินชี้แจง กรณีบุกรุกหาดคลองสน แปลงที่ประชาชนครอบครอง ได้มาก่อนการประกาศเขตป่า

ข่าวทั่วไป Wednesday January 26, 2022 09:18 —ThaiPR.net

กรมที่ดินชี้แจง กรณีบุกรุกหาดคลองสน แปลงที่ประชาชนครอบครอง ได้มาก่อนการประกาศเขตป่า

ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว การตรวจสอบการบุกรุกหาดคลองสน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ โดยชุดตรวจสอบแก้ไขการบุกรุกที่ดิน กอ.รมน.ทภ. ๔ เดินทางไปสำนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ เพื่อขอเอกสารระวางที่ดินบริเวณหาดมาตรวจสอบ พบว่านอกเหนือจากแปลงตรวจยึด ๑๒๕ ไร่ แล้ว บริเวณหน้าชายหาดนอกแปลงตรวจยึดยังมีที่ดิน ๑ แปลง ที่พบว่าถูกออกเป็นโฉนดที่ดิน แต่ยังไม่สามารถระบุเนื้อที่ได้ ต้องรอเอกสารจากสำนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่อีกครั้ง

กรมที่ดิน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าตำแหน่งที่ดินบริเวณหน้าหาดคลองสน นอกพื้นที่ตรวจยึดตามที่ปรากฏเป็นข่าว พบว่ามีโฉนดที่ดินเนื้อที่ ๑๐ ไร่ ๑ งาน ๔๓.๘ ตารางวา ออกโฉนดที่ดินเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ โดยการยื่นคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย ตามความในมาตรา ๕๙ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน มีหลักฐานเดิมเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ ก.) ซึ่งออกจากหลักฐาน ส.ค. 1 เลขที่ 23 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อ 24 พฤษภาคม 2498 เนื่องจากที่ดินตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ "ป่าอ่าวนาง-หางนาค" ในเขตป่าไม้ถาวร "ป่าอ่าวนาง-หางนาค" ตามมติคณะรัฐมนตรี และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยประกาศเขตอุทยานเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๒๖ การออกโฉนดที่ดินจึงต้องตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์สิทธิในที่ดินตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ซึ่งจังหวัดกระบี่ได้ตั้งคณะกรรมการตามคำสั่งจังหวัดกระบี่ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ และคำสั่งแก้ไขเพิ่มเติม ลงวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ ประกอบด้วย ปลัดอำเภอผู้ประสานงานประจำตำบลอ่าวนาง ผู้แทนสำนักจัดการป่าไม้ ๑๒ ผู้แทนกรมพัฒนาที่ดิน ผู้แทนหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ กำนันตำบลอ่าวนาง และผู้แทนสำนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ ร่วมกันออกไปตรวจพิสูจน์ที่ดินแปลงนี้ปรากฏว่าที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ป่าไม้ถาวร และป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนางและป่าหางนาค ซึ่งป่าสงวนแห่งชาติมีพระราชกฤษฎีกา กำหนดเป็นป่าคุ้มครองเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๕ แต่ที่ดินได้มีการครอบครองและทำประโยชน์มาโดยชอบก่อนพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๗๙ ใช้บังคับ และได้แจ้งการครอบครองที่ดิน ตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ผู้ครอบครองทำประโยชน์รวมตลอดจนผู้รับโอนย่อมเป็นผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย สามารถออกโฉนดที่ดินได้ตามนัยความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นสมควรออกโฉนดที่ดินให้ได้ตามผลการรังวัดซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้อนุมัติให้ออกโฉนดที่ดินได้ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553

ดังนั้น การออกโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าว จึงเป็นการออกโฉนดที่ดินที่ได้ปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายแล้ว อย่างไรก็ตามกรมที่ดินพร้อมที่จะให้การสนับสนุนข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ