ถึงคราววิ่งหนีคริปโตฯ หันซบตลาดหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 1, 2022 15:24 —ThaiPR.net

ถึงคราววิ่งหนีคริปโตฯ หันซบตลาดหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์

บทเรียนราคาแพงจากการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่ราคาปรับขึ้นร้อนแรงในปีที่ผ่านมา ทำเอาหลายคนกระโดดเข้าสู่วงการนี้ แต่เมื่อตลาดผันผวนเหรียญคริปโตจำนวนมากที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานใดๆ รองรับราคาเหรียญเหล่านี้ก็เริ่มร่วงลงอย่างรุนแรง ซึ่งก็ทำให้ผู้ลงทุนหลายคนเจ็บตัวตามไปด้วย นี่คือประตูความเสี่ยงในการลงทุนที่นักลงทุนเปิดรับเข้ามาเอง

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดคริปโต เราได้เห็นความงอกเงยของตลาดหุ้นกู้ที่เติบโตสวนกระแสเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น เช่น หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ หรือ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) ที่มีบริษัทเอกชนรายใหญ่เข้าสู่ช่องทางการระดมทุนชนิดนี้ 

ล่าสุดคือ สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ ที่ได้ประกาศแผนการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนเป็นครั้งแรก หุ้นกู้ด้อยสิทธิของ สยามพิวรรธน์ ประกาศอัตราดอกเบี้ยช่วง 5 ปีแรกที่ 5.50% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน จากนั้นจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 5 ปี อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ในช่วงเวลานั้นๆ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับเครดิตของบริษัทฯ อยู่ที่ 'A-' แนวโน้มอันดับเครดิต 'คงที่' (Stable) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนนี้ที่ระดับ 'BBB' แนวโน้มอันดับเครดิต 'คงที่' (Stable) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565

หมัดต่อหมัด หุ้นกู้สู้คริปโต

ในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบการลงทุนในหุ้นกู้กับคริปโตเคอร์เรนซี สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ คือ 

  • บริษัทผู้ออกหุ้นกู้โดยส่วนใหญ่มี Track Record ในการทำธุรกิจ มีผลการดำเนินงานย้อนหลังให้พิจารณา ในขณะที่ผู้ออกคริปโต เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ในการออกคริปโตโดยเฉพาะ
  • หุ้นกู้ มีสถาบันจัดอันดับเครดิตจากองค์กรที่น่าเชื่อถือและมีความเป็นอิสระในการจัดอันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้และของหุ้นกู้ ไม่มีซึ่งผู้ลงทุนสามารถใช้เป็นแหล่งศึกษา อ้างอิง และใช้เป็นแนวทางในการคัดเลือกหุ้นกู้ที่จะลงทุนได้ แต่คริปโตไม่มีสถาบันจัดอันดับเครดิต
  •  ในขณะที่คริปโตไม่มีองค์กรอิสระหรือสถาบันจัดอันดับเครดิตตราสารมาช่วยวิเคราะห์ ให้ความเห็นและจัดอันดับเครดิตให้ ดังนั้น การลงทุนในคริปโตจึงเป็นการลงทุนแบบ 'อัตตา หิ อัตตโน นาโถ' (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน) 

    แล้วในฐานะผู้ลงทุนจะเลือกอย่างไร 

    การลงทุนในหุ้นกู้ คือการที่ผู้ลงทุนกำลังปล่อยกู้ให้กับบริษัทนั้นๆ สิ่งแรกที่ควรพิจารณา คือคุณภาพของบริษัทหรือคุณภาพของผู้ออกหุ้นกู้นั้นๆ วิธีที่จะช่วยในการคัดเลือกที่ง่ายที่สุด คือ 

  • เลือกบริษัทที่มีอัตราส่วน'หนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อส่วนของทุน' ต่ำๆ ยิ่งต่ำยิ่งดี เราคงจะไม่อยากปล่อยกู้บริษัทที่มีหนี้สินมากกว่าทุนหลายๆ เท่า เพราะโอกาสจะได้เงินต้นคืนก็จะน้อยกว่า บริษัทที่มีหนี้สินน้อยกว่าทุน หรือมีหนี้สินใกล้เคียงกับทุน
  • เลือกจากอันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้และอันดับเครดิตของตราสารสิ่งที่ผู้ลงทุนควรทำคือ อ่านรายงานการจัดอันดับเครดิต ทำความเข้าใจและอ่านคำนิยามของอันดับเครดิตในระดับต่างๆ เพื่อจะได้ถามตัวเองว่าเราจะรับความเสี่ยงได้ในอันดับเครดิตระดับใด แน่นอนแต่ละคนรับความเสี่ยงไม่เท่ากัน บางคนกล้าได้กล้าเสีย กล้าลงทุนบริษัทที่อันดับเครดิตต่ำกว่า Investment Grade หรือที่เรียกว่า Junk Bond แต่บางคนรับไม่ได้ต้องลงทุนในระดับ Investment Grade เท่านั้น เป็นต้น ส่วนผลตอบแทนการลงทุนก็เป็นไปตามสัจธรรม High Risk High Return ยิ่งเสี่ยงต่อเงินต้นของคุณมาก เขาก็จะเสนอดอกเบี้ยสูงๆ หน้าที่ของผู้ลงทุนคือ ถามตัวเองว่าชอบลงทุนแบบไหน
  • ดังนั้น เราจึงต้องกลับมาตั้งต้น คัดเลือกผู้ออกหุ้นกู้ คัดเลือกบริษัทที่พื้นฐานมั่นคง แข็งแกร่ง มีผลงานพิสูจน์ชัด และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว เพื่อความปลอดภัยของเงินต้นและดอกเบี้ยของเรา

    คำเตือน : - หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงและซับซ้อนกว่าหุ้นกู้ปกติ โดยมีความเสี่ยงที่ระดับ 7 จากทั้งหมด 8 ระดับ

    - ผู้ลงทุนควรทำความความเข้าใจลักษณะหุ้นกู้ เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่หนังสือชี้ชวนสำหรับการเสนอขายตราสารหนี้


    แท็ก ตลาดหุ้น  

    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ