สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก 14 พฤศจิกายน 2566 เตือน "เบาหวาน" ภัยเงียบคุกคามไม่รู้ตัว แนะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันได้

ข่าวทั่วไป Friday November 10, 2023 17:42 —ThaiPR.net

สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก 14 พฤศจิกายน 2566 เตือน

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) ร่วมรณรงค์ "วันเบาหวานโลก" 14 พฤศจิกายน 2566 (World Diabetes Day 2023) เตือน "โรคเบาหวาน" ภัยเงียบคุกคามไม่รู้ตัว ชวนประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ลดความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อน

ประเด็นรณรงค์เนื่องในวันเบาหวานโลกในปีนี้  "เบาหวาน? รู้ว่าเสี่ยง รู้แล้วต้องเปลี่ยน Diabetes: Know Your Risk, Know Your Response" เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงอันตรายของโรคเบาหวาน เนื่องจากโรคเบาหวานถือว่าเป็นโรคที่คนไทยป่วยกันมาก พบได้ในทุกช่วงวัย และยังมีแนวโน้มที่จะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน

นายแพทย์เฉลิมพล  โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคเบาหวานสูงขึ้น จากระบบข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ Health Data Center (HDC) ปีงบประมาณ 2564-2566 ประเทศไทยพบอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวาน 7,010, 7,336 และ 7,692 ต่อประชากรแสนคน สำหรับเขตพื้นที่สุขภาพที่ 12 มีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน พบอัตราป่วยด้วยโรคเบาหวาน 4,980, 5,148 และ 5,396  โดยในปีงบประมาณ 2566 ( ณ 30 ก.ย. 66) อัตราป่วยสูงสุดในจังหวัดพัทลุง 7,555 รองลงมา คือ ตรัง 6,820 สงขลา 6,219 สตูล 5,035 นราธิวาส 4,251 ยะลา 3,909และปัตตานี 3,745

เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอหรือร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้อวัยวะเสื่อมสมรรถภาพ และทำงานล้มเหลว เป็นเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ตา  ไต หลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง รวมถึงเป็นแผลง่ายหายยาก ชาปลายมือปลายเท้า

โรคเบาหวานสามารถป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ สคร.12 สงขลา ขอแนะนำการป้องกันโรคเบาหวาน ดังนี้ 1.รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เลี่ยงรสหวาน มัน เค็ม 2.ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 3.มีกิจกรรมทางกายและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 4.ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 5.ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม และ 6.หากมีอาการของโรคเบาหวาน เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ หิวบ่อย กินจุ น้ำหนักลด เป็นแผลง่ายหายยาก หรือชาปลายมือปลายเท้า ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป นอกจากนี้ ถ้ามีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน ควรดูแลใส่ใจเรื่องการควบคุมอาหาร การรับประทานยา การเข้ารับการตรวจตามนัด และสังเกตอาการป่วยที่อาจผิดปกติ  

นายแพทย์เฉลิมพล  กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่มีอาการปัสสาวะบ่อยและมาก คอแห้ง กระหายน้ำ หิวบ่อย กินจุ น้ำหนักลด เป็นแผลง่ายและหายยาก คันตามผิวหนัง ตามัว ชาตามปลายมือปลายเท้า และความรู้สึกทางเพศลดลง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษา หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลป้องกันตนเองจากโรคเบาหวาน สามารถโทรสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ