กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--
พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส ประธานโครงการประกวดโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ "เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง" วัดสุทัศนเทพวราราม กล่าวถึงแนวทางการปลูกฝังให้เยาวชนรุ่นใหม่เป็นผู้ไฝ่รู้และพัฒนาตนเอง โดยยึดหลักธรรมะเป็นแนวทางในการศึกษาหาความรู้และการดำเนินชีวิตในอนาคตว่า "การปลูกฝังคุณธรรมและความดีในเด็กรุ่นใหม่นั้นจำเป็นต้องมีวิธีการเชิงรุกที่ทำให้พวกเขารู้สึกเป็นเจ้าของธรรมหรือความดีนั้น และเน้นการนำลงสู่วิถีชีวิตให้ได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ครอบครัวโรงเรียนและสังคมควรตระหนัก โดยใช้โอกาสวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ได้ใช้เหตุการณ์พุทธประวัติมาปรับเป็นคติธรรมในการดำเนินชีวิต หรือนำมาใช้เป็นหลักในแก้ปัญหาชีวิตของตนเองได้ เช่น วันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือ เกิด ได้ตรัสรู้ คือ สำเร็จ และได้ปรินิพพาน คือ ดับ หากพิจารณานำเหตุการณ์นับตั้งแต่พระองค์ประสูติ ดำเนิน 7 ก้าว และทรงเปล่งอาสภิวาจามาใช้เป็นคติในการดำเนินชีวิตของชาวพุทธ ย่อมหมายถึงพระองค์เกิดมาโดยมีเป้าหมายชีวิตตั้งแต่วันแรก ว่าจะเป็นผู้เลิศที่สุด เป็นคนดีที่สุด แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญที่จะเป็นคนดีของโลก เราก็สามารถใช้เหตุการณ์ตอนนี้มาเป็นคติธรรมในการดำเนินชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชนของเราว่าควรมีเป้าหมายชีวิตที่ดีงาม มิใช่บางคนเรียนจนจบมหาวิทยาลัยแล้วยังหาเป้าหมายชีวิตไม่เจอเลย อย่างน้อยเกิดมาแล้วก็ต้องเริ่มมีเป้าหมายชีวิตที่จะเป็นคนดีที่สุดของคุณพ่อคุณแม่ ครูอาจารย์ เป็นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิตตามรอยพระพุทธเจ้า ส่วนการก้าวเดิน 7 ก้าวหมายถึง การค่อยๆคิดค่อยๆทำอย่างมีสติเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้ถึงเป้าหมายได้อย่างรอบคอบระมัดระวัง มิใช่ก้าวพรวดเดียวผลีผลามไปสู่เป้าหมายก็อาจเซล้มลงเสียก่อนได้
สำหรับเหตุการณ์ตอนตรัสรู้นั้น ก็เป็นคติเตือนใจให้เด็กและเยาวชนในวัยแห่งการศึกษาเล่าเรียนได้มุ่งมั่นขยันเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในชีวิต และสิ่งที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้คือ อริยสัจจ์ 4 ได้แก่ ทุกข์ (สภาพที่เป็นปัญหา) สมุทัย (เหตุแห่งทุกข์) นิโรธ (ความดับทุกข์) และ มรรค (หนทางไปสู่ความดับทุกข์) นั้น ถ้าเรานำการคิดพิจารณาตามหลักอริยสัจ 4 มาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ชีวิตผ่านการทำเป็นโครงงานคุณธรรม ก็จะสามารถเทียบเคียงได้กับกระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์
จากการที่กลุ่มกัลยาณมิตรเพื่อการเสริมสร้างเครือข่ายวิถีพุทธ ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม หรือศูนย์คุณธรรมจัดขึ้นในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา เด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ ได้คิดค้นและจัดทำโครงงานคุณธรรมมากกว่า ๑ หมื่นโครงงาน ที่สามารถคิดและแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งในครอบครัว ชุมชน และสังคม ได้สำเร็จโดยนำหลักธรรมและแนวพระราชดำริเข้าไปจับ เช่น โรงเรียนปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ช่วยกันคิดและจัดทำโครงงาน "รักนวลสงวนตัวฯ" เพื่อแก้ไขปัญหาการเสียตัวก่อนวัยอันควรของวัยรุ่นในโรงเรียน และโครงงาน ลด ละ เลิก บุหรี่-เมรัยฯ ของโรงเรียนเวียงมอกวิทยา จ.ลำปาง ที่แก้ปัญหานักเรียนติดเหล้าบุหรี่ เป็นต้น เป็นบางตัวอย่างของความสำเร็จโดยเยาวชนที่นำธรรมะมาใช้ให้เกิดประโยชน์แท้ด้วยตัวของเยาวชนเอง (ดูตัวอย่างโครงงานเพิ่มเติมได้จาก www.moralproject.net) จึงได้ข้อสรุปว่า แม้หลักธรรมะของพระพุทธเจ้าที่มีมากว่า 2,500 ปีแล้ว แต่ถ้าเราเรียนรู้และนำมาปฏิบัติไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน คุณแห่งพระธรรม จะยังคงปรากฏและมีผลเป็นที่ประจักษ์"
หมายเหตุ : ข้อมูลประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมติดต่อ
คุณ ประมวล / คุณรัดใจ -02-6449900 # 301-302
คุณ อาภาภรณ์ / คุณวันนิษา -081-5508412