สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ตีปีกรับมติครม. ผุดศูนย์ประสานงานและศูนย์รับปัญหาข้อเสนอแนะค่าK ราคากลางและ E-Auction หวังช่วยผู้ประกอบการก่อสร้างพ้นวิกฤติ

ข่าวอสังหา Thursday June 19, 2008 15:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ประกาศเปิดศูนย์ประสานงานตามมติครม.วันที่ 17 มิถุนายน 2551 รวมทั้งศูนย์รับปัญหาและข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับราคากลาง ค่าK และ E-Auction หลังครม.มีมติไฟเขียวช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นมาตรการเฉพาะหน้า พร้อมตั้งคณะทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อกำหนดมาตรการระยะกลางและระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างถาวร
นายพลพัฒ กรรณสูต นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่าหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2551 มีมติเห็นชอบให้ช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพก่อสร้างที่ทำสัญญากับทางราชการ และได้รับผลกระทบจากการปรับราคาของวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่ง ดังนี้
1. พิจารณาปรับปรุงการคำนวณเงินเพิ่ม-ลดตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ให้มีความเป็นธรรม และจะบวกเงินเพิ่มให้กับงบประมาณที่มีการทำสัญญาก่อสร้างไว้ 4% เพื่อเป็นเงินชดเชยสำหรับราคาวัสดุที่เพิ่มขึ้นใน 2 รายการหลัก คือ เหล็กเส้น และน้ำมันเชื้อเพลิง
2. พิจารณาขยายระยะเวลาสัญญาโครงการก่อสร้างที่ได้เสนอราคา และ/หรือลงนามในสัญญาก่อสร้างแล้ว และ/หรือยังดำเนินการก่อสร้างอยู่เพื่อเป็นการลดและยืดปริมาณความต้องการเหล็กเส้นให้น้อยลงและยาวขึ้น เพื่อเป็นการตรึงราคาวัสดุก่อสร้างให้นานขึ้น
3. พิจารณางดหรือยกเว้นหรือลดหย่อนหรือให้คืนค่าปรับ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ให้แก่ผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างที่ได้ถูกปรับอันเนื่องจากก่อสร้างล่าช้าล่วงเลยกำหนดสัญญาโดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550
4. พิจารณาเร่งรัดพระราชบัญญัติอาชีพก่อสร้าง พ.ศ....ให้แล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
5. เปิดโอกาสให้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯได้รับโอกาสในการเข้าถึงส่วนร่วมในการพิจารณากฏ ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ ร่วมกับภาครัฐเพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส
นายพลพัฒ กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือดังกล่าว นับเป็นมาตรการบรรเทาทุกข์เบื้องต้นให้กับผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งนับเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตามยังมีมาตรการระยะกลางที่สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ต้องร่วมกับภาครัฐพิจารณากำหนดมาตรฐานให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน ประกอบด้วย
1. หลักเกณฑ์การกำหนดสูตรค่า K ใหม่
2. การกำหนดราคากลางให้เป็นปัจจุบัน
3. การปรับแก้ขั้นตอน E-Auction
4.การยกเว้นการใช้ระเบียบพัสดุ ข้อ 16 เรื่องการบังคับใช้เหล็กซึ่งมี มอก.ที่ผลิตภายในประเทศ เป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเหล็กเส้นก่อสร้าง ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลให้ต้นทุนค่าก่อสร้างของผู้บริโภคลดลง
นายพลพัฒ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้การกำหนดหลักเกณฑ์เป็นไปอย่างครอบคลุมและสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้อย่างทั่วถึง สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ จึงได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบติดตามงานอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานติดตามมติครม. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2551 โดยเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.เป็นต้นไป ซึ่งผู้ประกอบการที่รับงานภาครัฐและมีปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามมติครม.ให้แจ้งมาที่สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯโทรศัพท์ 0-2255-3991-2 ต่อ 106 และทางเว็บไซต์ www.tca.or.th
นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งศูนย์รับปัญหาและข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับราคากลาง, ค่าK และ E-Auction เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ เพื่อเสนอให้หน่วยงานภาครัฐสามารถนำไปประกอบการพิจารณากำหนดมาตรฐานการคิดค่าK, ราคากลาง และ E-Auction ภายใน 90 วัน
ในระยะยาวสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างฯ จะมุ่งสร้างความโปร่งใสให้กับวงการก่อสร้างไทย และผลักดันให้มีการจัดตั้งสภาอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนประสานกับหน่วยงานกลาง อาทิ สภาวิศวกร สภาสถาปนิก ฯลฯเข้ามาเป็นตัวกลางในการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการและผู้ว่าจ้าง
อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้างกำลังประสบปัญหาวิกฤติเช่นปัจจุบันหากสถาบันการเงินช่วยเหลือด้วยการผ่อนปรนหลักเกณฑ์ในการขอกู้ให้กับผู้ประกอบการ ก็จะทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้างสามารถดำเนินงานต่อไปได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศมีการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
ศริญญา แสนมีมา / ภัทรภร ตันตรงภักดิ์ โทร. 0-2204-8218, 081-805-1498, 0-2204-8550, 086-668-1415

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ