กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ดังต่อไปนี้ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Foreign Currency Issuer Default Rating (IDR)) ที่ระดับ ‘BBB+’ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ระดับ ‘F2’ - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ระดับ ‘C’ - อันดับเครดิตสนับสนุนที่ระดับ ‘2’ - อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) ที่ระดับ ‘BBB-’ (BBB ลบ) - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ระดับ ‘BBB’ - อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ ‘AA(tha)’ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ระดับ ‘F1+(tha)’ - อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันระยะยาวที่ระดับ ‘AA(tha)’ - อันดับภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันระยะสั้นที่ระดับ ‘F1+(tha)’ และ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ระดับ ‘AA-(tha)’ (AA ลบ (tha)) แนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารคงเดิมที่มีเสถียรภาพ อันดับเครดิตของ KBANK สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของผลกำไรจากการดำเนินงาน คุณภาพสินทรัพย์และฐานะเงินกองทุน และเครือข่ายการดำเนินงานและบริการภายในประเทศที่แข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 40% ของสินเชื่อรวม ภาคธุรกิจขนาดใหญ่และกลุ่มลูกค้าบุคคล อันดับเครดิตของธนาคารยังสะท้อนถึงความเป็นไปได้สูงที่ KBANK จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหากต้องการความช่วยเหลือเนื่องจากธนาคารมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ KBANK ขณะนี้ถูกจำกัดโดยอันดับเครดิตของประเทศไทย หากธนาคารสามารถลดระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และหนี้ที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ จะทำให้เป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิตของธนาคารในอนาคต ในปี 2550 ผลกำไรก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 17.6% และผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 9.5% เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้บริการทางด้านการเงิน อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิอยู่ในระดับเดิมที่ 3.9% ในปี 2550 สะท้อนถึงเครือข่ายในภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่แข็งแกร่ง และต้นทุนเงินฝากที่ต่ำของธนาคาร ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างมากในไตรมาสแรกปี 2551 เป็นผลมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่าหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญอาจสูงขึ้น โดยภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2551 น่าจะยังคงแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าธนาคารจะต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอซึ่งอาจทำให้ต้นทุนทางการเงินของธนาคารสูงขึ้น การเติบโตของสินเชื่อลดลงและการกลับมาของปัญหาหนี้เสีย ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 4.6% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2550 จาก 7% ณ สิ้นปี 2549 เนื่องจากการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้แก่บุคคลภายนอกและการปรับโครงสร้างหนี้ ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 KBANK ตั้งเป้าที่จะลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้ต่ำกว่า 5% ของสินเชื่อรวมภายในสิ้นปี 2551 โดยการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มเติมเป็นหลัก ระดับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารอยู่ที่ประมาณ 70% ของหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่ง การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ Basel II น่าจะทำให้อัตราส่วนเงินกองทุนลดลงไม่มากนักภายในสิ้นปี ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งก่อตั้งในปี 2488 โดยตระกูลล่ำซำ เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 13% บริษัทลูกที่สำคัญของธนาคารประกอบธุรกิจบริหารกองทุน และธุรกิจวาณิชธนกิจ ติดต่อ ดรุณี เพียรมานะกิจ, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4752/4759 การเปิดเผยข้อมูล: บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กสิกรไทย จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดยธนาคารกสิกรไทย ถือหุ้นจำนวน 10% ของบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่มีผู้ถือหุ้นใดนอกเหนือจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัดแห่งประเทศอังกฤษที่มีส่วนในการดำเนินงานและการจัดอันดับเครดิตที่จัดโดยบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้ คำจำกัดความของอันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ท่านสามารถหาได้จาก www.fitchratings.com รวมทั้ง อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต และนโยบายที่เกี่ยวข้องซึ่งได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวไว้ตลอดเวลา เอกสารนี้จะปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน