ซีพีเอฟ...ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร โชว์ 3 ศักยภาพเด่น

ข่าวทั่วไป Tuesday July 15, 2008 16:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--ซีพีเอฟ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ตอกย้ำความเป็นครัวของโลก โชว์หลักสูตรพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิภาพสัตว์ปีก (Animal Welfare Trainer) โครงการนำร่องคอมพาร์ท เมนต์ (Compartment) แห่งแรกของไทยและของโลก พร้อมทดลองตรวจสอบแหล่งที่มาผลิตภัณฑ์ด้วยระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ผ่านทางเว็บไซต์และ SMS โดยนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ณ โรงงานอาหารสัตว์ปักธงชัย และโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จ.นครราชสีมา
นายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเป็นบริษัทแรกนอกเขตประเทศยุโรป ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Animal Welfare และเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง บริษัทได้ต่อยอดการพัฒนาบุคคลากรของซีพีเอฟในระดับมืออาชีพเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ด้านสวัสดิภาพสัตว์อย่างยั่งยืน จึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยบริสตอล จัดทำหลักสูตร “การพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิภาพสัตว์และคุณภาพเนื้อสัตว์ปีก” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญของซีพีเอฟที่ผ่านการอบรมหลักสูตรนี้จะสามารถสร้างองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับธุรกิจอาหารแปรรูปสัตว์ปีกครบวงจร อีกทั้งสามารถเป็นวิทยากรให้ความรู้และบริหารระบบการปฏิบัติงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ปีกให้เป็นไปอย่างยั่งยืนด้วยมาตรฐานระดับสากล โดยซีพีเอฟเป็นบริษัทเอกชนด้านอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปครบวงจรรายแรกของโลกที่มหาวิทยาลัยบริสตอลร่วมลงนามจัดทำหลักสูตรนี้ ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการระหว่างปี 2551-2552 โดยจะครอบคลุมการดูแลสวัสดิภาพสัตว์แบบครบวงจร เริ่มต้นจากด้านฟาร์ม การขนส่ง โรงงานแปรรูป การประเมินผลและการประกันคุณภาพในสวัสดิภาพสัตว์
นายธีรศักดิ์กล่าวอีกว่า ซีพีเอฟ ทุ่มเท เอาใจใส่ในการเลี้ยงสัตว์ทุกขั้นตอน นับตั้งแต่ พ่อ-แม่พันธุ์ โรงฟักไข่ ตลอดจน ฟาร์มไก่เนื้อ-เป็ดเนื้อ รวมทั้งให้ความรู้ขั้นพื้นฐานแก่ผู้ปฏิบัติงานในด้านความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยกระดับการปฏิบัติงานด้านการดูแลสัตว์ไปสู่ระดับสากล นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังให้ความสำคัญในมาตรฐานการผลิตอาหาร บนหลักการของอาหารปลอดภัยหรือ Food Safety และการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) โดยสามารถผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลต่างๆ อย่างครบถ้วน
ขณะเดียวกัน องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศหรือ OIE และกรมปศุสัตว์ ก็ได้เลือกฟาร์มไก่เนื้อของซีพีเอฟ เป็นโครงการนำร่องแห่งแรกของโลก (Pilot project) เพื่อศึกษาระบบ Compartment สำหรับอุตสาหกรรมสัตว์ปีก หลังจากที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีการนำระบบ Compartment ขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) มาประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม และซีพีเอฟก็เป็นบริษัทแรกของประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองระบบ Compartment จากกรมปศุสัตว์ ครอบคลุมฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อและเป็ดเนื้อ
โดยซีพีเอฟได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดทำระบบ Compartment ในอุตสาหกรรมสัตว์ปีกกับกรมปศุสัตว์ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2549 ปัจจุบันฟาร์มของ CPF ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ได้ผ่านการตรวจรับรองคู่มือการจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและผ่านการตรวจรับรองฟาร์มจากกรมปศุสัตว์แล้วทั้งสิ้น โดยมีการเก็บตัวอย่างเพื่อเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกครบกำหนด 12 เดือนต่อเนื่อง และสามารถพิสูจน์ได้ว่าทุกฟาร์มในระบบ Compartment ปลอดจากโรคไข้หวัดนกตามเงื่อนไขของกรมปศุสัตว์และมาตรฐานสากล
ซีพีเอฟ มีความพร้อมในด้านพื้นฐานการจัดการฟาร์มและมีมาตรฐานฟาร์มที่ดีอยู่แล้ว เมื่อนำระบบ Compartment เข้ามาใช้และเพิ่มความเข้มงวดในบางจุดให้มากขึ้น ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้จริงว่า ทุกๆฟาร์ม รวมถึงเขตกันชน (Buffer zone) ของแต่ละ Compartment ไม่มีเชื้อไข้หวัดนก” นายธีรศักดิ์กล่าวและว่า ระบบ Compartment ไม่เพียงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคไข้หวัดนกเท่านั้น แต่ยังช่วยลดอุบัติการณ์ของโรคระบาดสัตว์อื่นๆ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง และเป็นหลักประกันความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดสินค้าอาหารที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ระบบ Compartment หรือ ระบบแยกส่วนการเลี้ยง มี 4 องค์ประกอบหลักที่สำคัญ ได้แก่ 1.)มาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity Management) 2.) การเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในฟาร์มและพื้นที่กันชนในรัศมี 1 กม. รอบฟาร์ม (Surveillance) 3.) การควบคุมโรคไข้หวัดนกในฟาร์มและพื้นที่กันชนในรัศมี 1 กม.รอบฟาร์ม 4.) ระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)
และเพื่อสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้น ซีพีเอฟจึงอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคในการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของเนื้อไก่สดซีพี ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงใช้บริการ SMS โดยพิมพ์ TM ตามด้วยเลขชุดการผลิตบนบรรจุภัณฑ์ และโทรออกไปยังหมายเลข 4545111 หรือจะตรวจสอบผ่านทาง Internet ที่ www.bangkok.go.th/vet และ www.vet-bma.com ก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเนื้อสัตว์ชิ้นนั้นมีที่มาจากฟาร์มชื่ออะไร จังหวัดใด
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์คุณภาพตราซีพี มีจำหน่ายทั้งในโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านซีพีเฟรชมาร์ท ที่เปรียบเสมือนตู้เย็นชุมชน ซึ่งมีสาขาเปิดให้บริการแล้วกว่า 350 สาขาทั่วประเทศ
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร. 0-2625-7344-5

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ