กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--โอเอซิส มีเดีย
ปทุมดีไซน์ เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะลึก ล่าสุดแบ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่เจาะ 5 เซ็กต์เม้นท์ หรือ The Fifth Elements มั่นใจสามารถรองรับลูกค้าได้ทุกกลุ่มตั้งแต่ 2-15 ล้านบาท คาดปี 2548 มูลค่าตลาดรับสร้างบ้านยังโตอีก 15 — 20 % ตั้งเป้ายอดขาย 400 ล้านบาท ผ่านการให้บริการ 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคีสานตอนล่าง เผยตั้งเป้าปี 2550 สามารถให้บริการรับสร้างบ้านได้ทั่วประเทศ
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดิเวลลอป จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2548 บริษัทฯ จะเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้สามารถตอบสนองกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะลึกและมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากทำการศึกษาวิจัยตลาดรับสร้างบ้านที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้ากลุ่มรับสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เฉพาะเจาะจง และแต่ละรายจะมีความต้องการที่แตกต่างกัน ต่างจากลูกค้าในกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ แบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่ม Trendy หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุประมาณ 25-35 ปี กลุ่ม Family หรือ กลุ่มที่กำลังสร้างครอบครัว อายุประมาณ 35-45 ปี และ กลุ่ม Luxury หรือ กลุ่มผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 45 ปี ขึ้นไป เพื่อนำเสนอสินค้าให้ตรงใจ
สำหรับในปี 2548 เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้มีความชัดเจน บริษัทฯ ได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายให้มีความละเอียดมากขึ้น เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาตอบสนอง โดยอาศัยการสื่อสารผ่านธาตุทั้ง 5 หรือ The Fifth Elements ซึ่งได้แก่ 1.กลุ่มธาตุไฟ (Fire) จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความทันสมัย แบบบ้านในกลุ่มนี้ก็จะเน้นการออกแบบที่ทันสมัย และโฉบเฉี่ยว ใช้สีสันที่สดใส เป็นต้น 2.ธาตุน้ำ (Water) จะเป็นกลุ่มที่ชอบแบบบ้านร่วมสมัยแนว Contemporary และ Classic บ้านมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา 3.กลุ่มธาตุโลก (Earth) เป็นกลุ่มที่ชอบบ้านแนวธรรมชาติ อาทิ บ้านทรงบาหลี บ้านที่เน้นพื้นที่จัดสวน เป็นต้น 4.กลุ่มธาตุไม้ (Wood) เป็นกลุ่มที่รักความสงบ สไตล์บ้านจะเป็นลักษณะบ้านทรงไทย หรือ ทรงไทยประยุกต์ และกลุ่มที่ 5.กลุ่มธาตุเหล็ก (Metal) กลุ่มนี้จะชอบบ้านที่มีเอกลักษณ์แสดงถึงอำนาจ และบารมี อาทิ บ้านทรงโรมัน ทรงยุโรป เป็นต้น
“ปทุมดีไซน์ ค่อนข้างชัดเจนว่าเราเน้นเรื่องแบบบ้าน และสไตล์ที่หลากหลาย สามารถตอบสนองลูกค้าได้ทุกกลุ่ม และทุกระดับราคา โดยปัจจุบันราคาของเราจะเริ่มต้นตั้งแต่เกือบ 2 ล้านบาท ถึง 15 ล้านบาท พร้อมแบบบ้านที่มีให้เลือกมากกว่า 70 แบบ และยังสามารถออกแบบให้ลูกค้าได้ใหม่หากต้องการ ซึ่งการแยกกลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มผลิตภัณฑ์จะทำให้เราสามารถวางแผนได้ชัดเจนในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต” นายสิทธิพร กล่าว
นายสิทธิพร กล่าวต่อไปว่า สำหรับในปี 2548 คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านจะยังเติบโตอีกราว15 — 20 % หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่มุ่งเน้นส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการให้แข่งขันกันพัฒนาบุคลากรและองค์กร เช่น พัฒนาการดีไซน์แบบบ้าน การพัฒนาคุณภาพและบริการ และการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค ทำให้ตลาดโดยรวมมีการขยายตัวเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารับงานสร้างบ้านในปี 2548 ไว้ไม่เกิน 400 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เพื่อจะควบคุมคุณภาพและบริการเอาไว้ ขณะที่แผนงานด้านการตลาดนอกจากการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความชัดเจนแล้ว การสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า จะเป็นแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ Customer Relations Management หรือ CRM โดยเน้นไปที่การให้บริการ การจัดกิจกรรม และสร้างความสัมพันธ์กับฐานลูกค้าเดิมเป็นหลัก พร้อมขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการขยายตลาดไปยังกลุ่มบ้านจัดสรร โดยเฉพาะโครงการที่เน้นการสร้างบ้านคุณภาพให้แก่ลูกค้า โดยใช้บริการจากมืออาชีพรับสร้างบ้าน
สำหรับปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถให้บริการได้ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ผ่านสาขาจำนวนทั้งหมด 5 สาขา ประกอบไปด้วย กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี และนครราชสีมา ถือเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายเดียวที่ให้บริการครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด โดยภายในปี 2550 ตั้งเป้าจะขยายสาขาให้สามารถบริการรับสร้างบ้านได้ทั่วทุกภูมิภาคเป็นรายแรก.
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณชัชวาล ตรีเนตร หรือ คุณศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม
บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด
โทร.0-2937-4658-9,0-2937-4735 โทรสาร, 0-2937-4596--จบ--