กรุงเทพฯ--29 ส.ค.-- โครงการสัมมนา เรื่อง โครงการการพัฒนาภาคใต้ ให้อะไรกับประชาชนในพื้นที่ ๑. หลักการและเหตุผล จากการที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ศึกษาการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและการบริการที่มีศักยภาพของประเทศในอนาคต โดยให้มีการศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และพลังงานในอนาคต ให้สอดคล้องกับศักยภาพ และภูมิสังคมของพื้นที่ และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและเกิดการยอมรับจากประชาชนก่อนการดำเนินโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมพื้นที่ใหม่ เน้นการดูแลสุขภาวะของประชาชนเป็นสำคัญ และมีผลการศึกษาเบื้องต้นสรุปว่าพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งภาคใต้ทั้งสองด้านมีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมในลักษณะเครือข่ายวิสาหกิจ (Cluster) ที่สำคัญ คือ กลุ่มการท่องเที่ยว ได้แก่ กลุ่มจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน และกลุ่มชายฝั่งทะเลอ่าวไทย กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ ซึ่งพื้นที่ที่เหมาะสม คือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดชุมพร สามารถพัฒนาเป็นฐานอุตสาหกรรมเหล็กขั้นต้นเพื่อผลิตเหล็กคุณภาพสูง การแปรรูปเกษตรและพืชพลังงาน โดยเฉพาะการแปรรูปยางพารา การผลิตไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมันในกลุ่มจังหวัดฝั่งอ่าวไทย และกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและพลังงาน พื้นที่ซึ่งมีศักยภาพตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานีเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗กำหนดให้กระบวนการพัฒนาใดๆ ที่จะกระทำลงในพื้นที่ ต้องให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมีส่วนร่วม ตั้งแต่ต้นกระบวนการ และมีส่วนร่วมในการพัฒนา ตลอดจนต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการในการตรวจสอบผลกระทบต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่โดยปกติสุข และสามารถเสนอหนทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และหน่วยงานภาครัฐต้องรับฟังกระบวนการภาคประชาชน ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องจัดให้ความรู้ความเข้าใจ และกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาดังกล่าว เพื่อป้องกันการละเมิดต่อประชาชน และชุมชน ๒. วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อให้ประชาชนซึ่งอยู่ในพื้นที่การพัฒนาได้ตื่นตัวและเฝ้าระวังการพัฒนาอันอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต ๒.๒ เพื่อส่งเสริมกระบวนการภาคประชาชนให้เข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาของรัฐ ๒.๓ เพื่อสร้างเครือข่ายการเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิชุมชน โดยโครงการภาครัฐ ๓. กลุ่มเป้าหมาย จำนวน ๒๖๐ คน (ครั้งละ ๑๐๐ คน จำนวน ๒ ครั้ง ) ๓.๑ นักวิชาการ ๓.๒ ประชาชนผู้อยู่ในพื้นที่ ๓.๓ ประชาชนซึ่งมีประสบการณ์จากการพัฒนาของรัฐ ๓.๔ นักพัฒนาเอกชน ๓.๕ ตัวแทนองค์กรภาครัฐ ๓.๖ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ๓.๗ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ๔. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ๔.๑ ประชาชนในพื้นที่โครงการมีความตื่นตัวต่อการพัฒนา และได้รับทราบข้อมูลอันเกี่ยวกับการ พัฒนาทั้งผลดี และผลกระทบของโครงการ ๔.๒ เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการพัฒนาต่างๆของรัฐ ๔.๓ สร้างเครือข่ายเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเครือข่ายประสานงานในพื้นที่ดำเนิน โครงการ ๕. วิธีการดำเนินการ การอภิปรายและจัดเวทีแสดงความคิดเห็น ๖. ระยะเวลา และสถานที่ดำเนินการ ๖.๑ ครั้งที่ ๑ ณ ห้องโกเมน โรงแรมไดมอนด์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๑ ๖.๒ ครั้งที่ ๒ ณ ห้องระเบียงทะเล โรงแรมชุมพร คาบาน่า รีสอร์ท จังหวัดชุมพร วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๑ ๗. งบประมาณ จากเงินงบประมาณสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รหัสรหัสกิจกรรม ๑M๒ ๒๑๗๐๐ ๘. ผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มงานประสานงานเครือข่าย สำนักส่งเสริมและประสานงานเครือข่าย สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ