กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--ปภ.
ปภ. เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมรับมือดินโคลนถล่ม กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลาดเชิงเขา หรือใกล้ ลำห้วยในช่วงที่ฝนตกหนักหรือภายหลังฝนตกหนักติดต่อกัน เพิ่มความระมัดระวังการเกิดดินโคลนถล่มเป็นพิเศษ หมั่นติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากสังเกตพบสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีขุ่นแดงหรือสีเดียวกับดินภูเขา มีเสียงดังผิดปกติ สัตว์ป่าแตกตื่น เป็นต้น ให้รีบอพยพขึ้นที่สูงหรือไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยด่วน นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เ ปิดเผยว่า ช่วงนี้มีฝนตกชุกหนาแน่นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบน และตอนใต้ของประเทศ จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยง ทั้งบริเวณที่ลาดเชิงเขา ติดลำห้วยหรือเนินหน้าหุบเขาที่มีร่องรอยการเกิดดินโคลนถล่มหรือเลื่อนไหลในช่วงที่ฝนตกหนักหรือภายหลังฝนตกหนัก เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว เพิ่มความระมัดระวังในการเกิดดินโคลนถล่มเป็นพิเศษ โดยให้ปฎิบัติตน ดังนี้ ก่อนเกิดดินถล่ม หมั่นติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ โดยในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม มักจะมีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน (มากกว่า ๖ ชั่วโมง) ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สีน้ำเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินภูเขา มีเสียงดังผิดปกติจากเขาหรือลำห้วย สัตว์ป่าแตกตื่น เป็นต้น โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรจัดเวรยามเฝ้าระวังบริเวณต้นน้ำที่สามารถเห็นการไหลหลากของน้ำป่า หากระดับน้ำของเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ต้นน้ำเกินกว่า ๑๐๐ มม. และพบผิดสิ่งปกติทางธรรมชาติที่บ่งชี้ว่าอาจเกิดดินถล่ม เตรียมขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินให้พ้นจากระดับน้ำและเตรียมการอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยด่วน หากสถานการณ์รุนแรง ให้แจ้งชาวบ้านอพยพไปตามเส้นทางที่วางแผนไว้ อย่ามัวแต่ห่วงทรัพย์สิน หากพลัดตกไปในน้ำ ห้ามว่ายน้ำหนีโดยเด็ดขาด เพราะอาจกระแทกกับ ซากต้นไม้หรือหินที่ไหลมาตามน้ำ ให้หาต้นไม้ขนาดใหญ่เกาะไว้ และปีนขึ้นให้พ้นน้ำจึงจะปลอดภัย ภายหลังดินถล่ม ควรกำหนดเขตความปลอดภัย และติดป้ายแจ้งเตือนภัย เร่งระบายน้ำออกจากบริเวณที่ดินถล่มให้มากที่สุด ร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่และป้องกันภัยดินถล่ม ไม่ปลูกสร้างบ้านเรือนหรือสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางน้ำหรือใกล้ลำห้วย ไม่ตัดไม้ทำลายป่าและช่วยกันปลูกป่าไม้ และพืชคลุมดิน เพื่อให้มีรากต้นไม้คอยดูดซับน้ำ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม ควรหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ ศึกษาเส้นทางอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยให้ละเอียด จะช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ดินถล่มได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับเหตุดินถล่ม กรมป้องกันและบรรเทาธารณภัยจึงได้จัดให้มีการฝึกอบรมเสริมสร้าง เครือข่ายอาสาสมัครเตือนภัยดินถล่ม หรือ“มิสเตอร์เตือนภัย” ในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มทั้งประเทศเพื่อให้ทำหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ ตรวจวัดระดับน้ำ ปริมาณน้ำฝน ใช้เครื่องมือสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนสามารถอพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที โดยขณะนี้ได้จัดอบรมประชาชนให้ทำหน้าที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม หรือมิสเตอร์เตือนภัย ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มไปแล้ว จำนวน ๗,๒๑๒ คน ทั้งนี้ คาดว่าจะฝึกอบรมจัดตั้งมิสเตอร์เตือนภัยครบทุกหมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยภายในปี ๒๕๕๒ อย่างแน่นอน