กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ธนาคารไทยธนาคาร นายสุธีร์ โล้วโสภณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านบริหารเงินและค้าผลิตภัณฑ์การเงิน ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ เกี่ยวกับเงินลงทุนในต่างประเทศของธนาคารไทยธนาคารตามที่เป็นข่าวในสื่อต่างๆ นั้น ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศดังนี้ ธนาคารได้จำหน่ายเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท CDO (Collateralized Debt Obligations) ไปทั้งหมดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 ซึ่งมีผลให้ธนาคารมีกำไรจากการจำหน่ายตราสาร CDO จำนวน 970 ล้านบาท และจะรับรู้กำไรในไตรมาสที่ 3 นี้ ส่วนตราสารหนี้ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันธนาคารได้รับชำระคืนเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศตามลำดับ โดยธนาคารจะได้รับเงินคืนจากตราสารหนี้ที่ธนาคารเข้าไปลงทุนในเดือนกันยายนนี้เป็นจำนวนเงิน 190 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศมีแนวโน้มจะปรับลดลงทำให้ผู้ออกตราสารหนี้ดังกล่าวทยอยคืนเงินลงทุนมาให้ก่อนครบกำหนด ทำให้ยอดเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศคงค้างของธนาคารลดลงเหลือเพียง 410 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในสิ้นเดือนกันยายน นี้ สำหรับยอดเงินลงทุนคงค้างรวมจำนวน 410 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังกล่าวนั้นแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1. ตราสารหนี้ภาครัฐหรือมีรัฐบาลต่างประเทศค้ำประกันเงินต้น จำนวน 190 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตราสารดังกล่าวไม่นับเป็นสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ - ตราสารหนี้จำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี - ตราสารหนี้จำนวน 140 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยองค์กรภาครัฐและมีรัฐบาล เยอรมันหรือรัฐบาลแคนาดาเป็นผู้ค้ำประกัน 2. ส่วนเงินลงทุนจำนวน 220 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เหลือนั้นเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความ น่าเชื่อถือสูงตั้งแต่ระดับ AA- ไปจนถึง AAA เงินลงทุนดังกล่าวนั้น เป็นตราสารหนี้ที่ผู้ออกตราสารเป็น ธนาคารขนาดใหญ่ หรือเป็นตราสารที่ได้รับการค้ำประกันเงินต้นจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดย ธนาคารได้กระจายการลงทุนออกไปในธนาคารต่างประเทศหลายประเทศ ดังนี้AA- สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ สุนิษฐา ยอดชีวัน 02-638-8256 กานต์พิชชา ธนจินดาเลิศ 02-638-8259