วิทยาศาสตร์อาหารน่ารู้จากแดจังกึม

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday February 14, 2006 14:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย
การเสวนาวิทยาศาสตร์อาหารจากแดจังกึม ซึ่งเป็นภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ที่กำลังได้รับความนิยมและสนใจอย่างกว้างขวาง โดยความร่วมมือระหว่างชมรมนักเขียนและผู้จัดทำหนังสือวิทยาศาสตร์ (นจวท.) สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ดำเนินการเสวนาโดย รศ. วีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์ อาจารย์ประจำภาควิชามนุษยศาสตร์ ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์
นายบำรุง ไตรมนตรี ประธานชมรมนักเขียนและผู้จัดทำหนังสือวิทยาศาสตร์ (นจวท.) กล่าวว่า ชมรม นจวท. ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2524 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 24 ปีแล้ว โดยการรวมตัวของคณะบุคคล 3 กลุ่ม คือ นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ นักเขียนและสื่อมวลชนด้านวิทยาศาสตร์ และผู้จัดทำหนังสือวิทยาศาสตร์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่เรื่องราวของวิทยาศาสตร์ต่อเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
ในปี 2549 นี้ จะเป็นปีแห่งการดำเนินงานในเชิงรุก สร้างความตระหนักในความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยมีโครงการดำเนินงานในอนาคตดังนี้
การบรรยายวิทยาศาสตร์ตามกระแส เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่องทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่น่าสนใจหรือที่เป็นข่าวตามกระแสในช่วงเวลานั้น ๆ ให้กับประชาชนทั่วไป
การจัดเสวนาผู้อ่านพบนักเขียนวิทยาศาสตร์ โดยจัดในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์
โครงการวิทยาศาสตร์สัญจร เพื่อเผยแพร่นวัตกรรมทางภูมิปัญญาวิทยาศาสตร์ของคนไทยที่น่ารู้ตามภูมิภาคต่างๆ โดยจะมีการจัดนำสมาชิกและสื่อมวลชนไปยังสถานที่นั้น ๆ เพื่อศึกษาและนำมาเผยแพร่ให้เกิดการต่อยอดทางนวัตกรรม
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมาก แต่มีอยู่อีกโครงการหนึ่งที่ทางชมรมฯ ต้องการที่จะแนะนำเป็นพิเศษคือ โครงการผลิตหนังสือ ชุดสุดยอดนักวิทยาศาสตร์ไทย โดยได้ทำออกมาแล้ว 2 เล่ม เป็นหนังสือที่เหมาะกับเยาวชนไทย เพื่อเป็นแบบอย่างว่าประเทศไทยก็มีนักวิทยาศาสตร์ที่เก่ง ๆ อยู่เพื่อเด็กจะได้อ่านเป็นการกระตุ้นมีความอยากจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ อนาคตประเทศไทยจะได้มีนักวิทยาศาสตร์มาก ๆ จะได้ช่วยกันพัฒนาประเทศต่อไป เล่มที่หนึ่ง ยอดนักวิทยาศาสตร์ไทย ดร. วิโรจน์ ตันตราภรณ์ และเล่มที่สอง เพิ่งจะเสร็จออกมา ขณะนี้เริ่มวางขายตามร้านหนังสือแล้วคือ ยอดวิศวกรนักพัฒนา ดร.พีรศักดิ์ สุนทรวโรสถ การผลิตสื่อในลักษณะนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สังคมไทย เกิดความตระหนักในด้านวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น ผู้สนใจซื้อหาได้ที่ตามร้านหนังสือทั่วไป
ชมรม นจวท. มุ่งหวังให้ประชาชนได้เกิดความรู้ความเข้าใจในการปรุงอาหาร การรับประทานอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการ การรับประทานอาหารเพื่อรักษาโรคและการนำพืชสมุนไพรมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหลักการต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีเหตุมีผลอาหารเกาหลีไม่ใช่เพียงรสชาติอร่อยเท่านั้น ยังมีคุณค่าทางอาหารและอนุรักษ์วัฒนธรรมตำรับอาหารเกาหลีไว้ด้วย โดยมุ่งเผยแพร่อารยธรรมเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งมีรากอารยธรรมจากจีน อาหารมีส่วนประกอบเป็นยาสมุนไพร อย่างเช่น เนื้อย่างเกาหลี จะนำเนื้อมาหันให้หนาพอสมควรนำมาทุบแล้วคลุกเคล้าด้วยน้ำสกัดจากสาลี่จะช่วยให้เนื้อที่หมักไว้นุ่มปรุงด้วยซ้อสและกระเทียมพริกไทยนำไปย่าง แล้วโรยหน้าด้วยเมล็ดสนจะช่วยเพิ่มรสชาติให้น่ากินมากขึ้น เครื่องปรุงสมุนไพร ที่นำมาปรุงล้วนแล้วแต่มีคุณค่าทางโภชนาการ กระเทียมช่วยดับกลิ่นคาวและช่วยลดคลอเรสเตอรอลในหลอดเลือด กระเทียมช่วยบำรุงธาตุ และสารสกัดจากเซลล์มะเร็งสามารถยับยั้งเซลล์ได้ ลองมาดูภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทย อย่างเช่น ว่านรางจืดแก้พิษแอลกอฮอล์ ใบชะมวงมีฤทธิ์กดเอนไซม์เอสเอจี โคอีรีดักซ์เทสต์ จะทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างคอเลสเตอรอลได้ อย่างเช่น แกงหมูตะลิงปลิง และกระเจี๊ยบแดงก็เช่นเดียวกัน คนไทยโบราณจึงมีความลึกซึ้งนำสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านยา เช่น ตรีผลา ซึ่งมีส่วนประกอบ ได้แก่ มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก มีสารอัลคาลอยด์กดเอนไซม์ มีฤทธิ์ในการขับสารพิษที่คั่งค้างในร่างกาย ส่วนสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการดูดกลิ่นได้แก่ ใบชาเขียวและถ่าน คุณสมบัติของชาเขียวมีสารแอมิน มีฤทธิ์เป็นเบสซึ่งเป็นอัลคาลอยด์จะไปกดเอนไซม์ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (แก๊สไข่เน่า) ที่มีฤทธิ์เป็นกรดทำให้ตกตะกอนกลิ่นจึงหายไป นอกจากนี้ สมุนไพรที่มีสารเป็นพิษไม่ควรนำมาใช้ อาทิ มะกล่ำตาหนู พญาไร้ใบ พญาร้อยรู เป็นต้น
นพ.อำนาจ ชัยชลทรัพย์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนตะวันออก โดยเฉพาะเทคนิคการฝังเข็ม แต่ก็ยังใช้การวิเคราะห์แบบการแพทย์แผนตะวันออก ทำได้โดยการดูส่วนต่างๆ ของร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าการฟังเสียง ฟังสำเนียง การดมกลิ่น อย่างเช่น กลิ่นตัว กลิ่นของอาหารที่กินเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา และการถามและสังเกตอาการที่ปรากฏออกมาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า การคลำหรือแมะเพื่อสัมผัสดูส่วนที่มีปัญหา เช่น แข็ง ร้อน หรือเจ็บ อันนำไปสู่การวินิจฉัยว่าเป็นโรคอะไร แนวทางการรักษามีหลาย ๆ องค์ประกอบร่วมกัน คือ การนั่งสมาธิ รับประทานยา รับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ศาสตร์แบบจีน มีหลายองค์ประกอบ มีวิถีการดำเนินชีวิตฝึกไปสู่ความรู้แจ้ง เช่น วิถีเต๋า หมอรักษาคน การฝึกปฏิบัติแบบพุทธ คำนึงถึงหยิน-หยาง และโลกทัศน์แบบเต๋า ซึ่งมีสามสิ่งที่มนุษย์ทั้งชายและหญิงมีความแตกต่างกันคือ ยีน เพศและกรุ๊ปเลือด การตรวจสุขภาพอาจสังเกตได้จากสิ่งขับถ่าย เช่น การแพทย์ทิเบต มีลักษณะผสมผสานกันระหว่างจีนกับอินเดีย ปัสสาวะเมื่อทิ้งไว้ข้ามดูได้จากการตกตะกอน เป็นต้น
รศ.ภญ.ดร. สุปราณี แจ้งบำรุง ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ อดีตนายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ
การรับประทาน อาหารผัก - ผลไม้ เป็นองค์ประกอบ สารอาหารมหภาคจะทำให้ได้อาหารครบทั้ง 5 หมู่ วิตามินเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการเพียงเล็กน้อยแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ร่างกายจะขาดไม่ได้ เช่น โฟลิค โฟเลท สารอิพิกาโรนคะทิชิน ซึ่งมีอยู่ในชาเขียวมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง (Antioxidants) เพื่อเป็นการป้องกันการประยุกต์ใช้ปรัชญานำไปสู่การปฏิบัติ
ดร.สมใจ วิชัยดิษฐ์ เลขาธิการ มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพกล่าวว่า อาหารของตะวันออกมีองค์ประกอบหลากหลาย อย่างเช่น อาหารไทย มีข้าวและกับข้าวหลายอย่าง ศิลปะของชาวตะวันออกเป็นโภชนาการที่สอดคล้องกับศาสตร์โภชนาการในปัจจุบัน สารอาหารนั่นหมายถึงสารเคมีในอาหาร ซึ่งการรับประทานอาหารที่หลากหลายและรับประทานอาหารไม่ซ้ำซากการรับประทานอาหารตามฤดูกาล รับประทานให้ครบ 5 หมู่ เป็นวิธีการทำให้สุขภาพดี
ศ.ดร. โสภณ เริงสำราญ ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีอาหาร อดีตหัวหน้าภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญงานวิจัยด้านสมุนไพร กล่าวว่า อาหารไทยราคาถูกไม่ใช้ทุนวิจัยมาก นักเขียนเกาหลี เอาภูมิปัญญาเกาหลีมาเขียนเล่าให้สนุกสนาน สมุนไพรไทยที่ดีมีคุณค่ามาก อาหารที่มีคุณค่าครบ 5 หมู่ อย่างเช่น ข้าวยำปักษ์ใต้ มีสมุนไพร 10 รส ผักทั้งหมดมีคุณค่าทางอาหาร ตะไคร้บำรุงธาตุขับปัสสาวะ ช่วยให้ผายลมลดการคลื่นเหียนท้องเฟ้อ ข่ามีรสฝาดมีสรรพคุณกันราและยับยั้งแบคทีเรีย พริกไทยช่วยระบายท้องไม่อืดเฟ้อ หัวหอมมีน้ำมันหอมระเหยช่วยขยายหลอดลม ใบชะพลูช่วยลดเบาหวาน มะระช่วยให้เจริญอาหาร ใบโหระพาใช้ทาแก้กลากยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรีย ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรีหน้าเด้ง อกเด้ง ผมได้ทำวิจัยร่วมกับดร.มาติน นักวิจัยชาวเยอรมัน สารหอมระเหย อโนมาเทอร์ราปี ธาตุเจ้าเรือน ทั้ง 4 อันได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ พริกสกัดสารที่ให้ความเผ็ดร้อนเป็นครีมใช้ทาภายนอกแก้ปวดเมื่อย ผมอยากจะกระตุ้นนักเขียนให้ช่วยกันสร้างตำรับภูมิปัญญาอาหารไทย ดังเช่น กาพย์ห่อโคลง สมัยรัชกาลที่ 4 ภูมิปัญญาไทยดี ๆ มีมากมายแต่ถูกมองข้ามไปไม่ได้มีการเผยแพร่ให้ใครรู้ อยากให้ชมรมนักเขียนและผู้จัดทำหนังสือวิทยาศาสตร์(นจวท.) ระดมนักวิทยาศาสตร์มารวมตัวกันเขียนเรื่องราวที่เกี่ยวกับภูมิปัญญาไทย
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ