กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--ก.ล.ต.
ในวันที่ 27 ธันวาคม 2549 ได้มีการประชุมระหว่าง ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และ ก.ล.ต. ได้ขอให้สมาคมฯ เพิ่มบทบาททั้งในเรื่องการเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนในการเปิดเสรีใบอนุญาตธุรกิจหลักทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า และการกำกับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
ในการประชุมดังกล่าว ก.ล.ต. ได้ขอให้สมาคมฯ ทำหน้าที่ 3 ด้าน คือ (ก) เป็นตัวกลางในการประสานงานและรวบรวมข้อสังเกตเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อสมาชิกในการพัฒนา(ข) นำเสนอการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการทางการเงินใหม่ ๆ แก่ ก.ล.ต. เพื่อเตรียมความพร้อมของสมาชิกในการปรับตัวเข้าสู่การเปิดเสรีในระยะเวลา 5 ปี และ (ค) ให้สมาคมฯ มีการทำงานในลักษณะการกำกับดูแลตนเอง (self regulation) มากยิ่งขึ้น โดยมี ก.ล.ต. เป็นผู้กำกับดูแลในเรื่องนโยบายหลัก
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ การที่ภาคเอกชนกำกับดูแลตนเอง นอกจากจะทำให้กฏกติกาสอดคล้องกับการปฏิบัติทางธุรกิจแล้ว กรณีที่มีปัญหายังสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่าการออกเป็นประกาศของทางการด้วย ซึ่งตลาดทุนในสากลนั้น ยิ่งมีระดับการพัฒนามากขึ้น ภาคเอกชนก็จะมีบทบาทกำกับดูแลตนเองมากขึ้นด้วย ”
นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า “ สมาคมยินดีจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ประกอบการกับ ก.ล.ต. เพื่อเร่งรัดการพัฒนาธุรกิจด้านใหม่ ๆ และการเตรียมพร้อมของสมาชิก ดังนั้น ในการประชุมรายไตรมาสกับ ก.ล.ต. ต่อไป จะมีการติดตามงานใน 3 หัวข้อดังกล่าวอยู่เสมอ ”
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อสร้างความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ไทย และเพิ่มช่องทางในการหารายได้ของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่ง ก.ล.ต. ขอให้สมาคมฯ ไปพิจารณาจัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการจัดสรรเงินลงทุนให้แก่สมาชิกของตน โดยใช้วงเงินเดียวกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดสรรให้กองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมทั้งให้มีการเสนอกฎเกณฑ์การลงทุนที่เหมาะสมด้วย