กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
BWG เดินหน้าขยายฐานธุรกิจกำจัดขยะ มุ่งเพิ่มความหลากหลายให้ครบวงจร "สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" ระบุเพื่อเสริมความมั่นคงให้กับผลประกอบการในระยะยาว พร้อมแสดงความมั่นใจปีนี้แม้มีโรงงานปิดตัวลงจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ไม่กระทบธุรกิจ เหตุงานในมือยังสร้างรายได้ต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบันรัฐหนุนโรงงานเข้าระบบกำจัดขยะถูกต้อง เชื่อปีนี้ยังปั๊มรายได้โตเพิ่มจากปี 51 ได้ ล่าสุดคว้างานโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลนครนครราชสีมา มูลค่า 412 ลบ. ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 52-53
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจกำจัดขยะในปีนี้ว่า เชื่อว่ายังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว และทำให้มีโรงงานหลายแห่งปิดตัวลง แต่เนื่องจากปัจจุบันมีโรงงานที่เข้าระบบกำจัดขยะอย่างถูกต้องเพียง 20% ของจำนวนโรงงานที่มีอยู่ทั่วประเทศเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 80% ยังไม่ได้เข้าระบบกำจัดขยะที่ถูกต้อง และทั้งหมดก็เป็นโรงงานที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในอนาคตของบริษัท ดังนั้นแม้จะมีโรงงานปิดตัวลงไปบ้างก็ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทแต่ประการใด ประกอบกับปัจจุบันรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศกำจัดขยะเป็นระบบมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ ซึ่งทำให้ธุรกิจนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต ซึ่งปัจจุบันธุรกิจกำจัดขยะอุตสาหกรรมของบริษัทยังสามารถสร้างรายได้ในทิศทางที่ดี
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนขยายฐานธุรกิจให้กว้างขวางขึ้น ด้วยการเพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มลูกค้า โดยล่าสุด ได้ให้ความสำคัญกับการกำจัดขยะในชุมชนเพิ่มเติมจากเดิมที่เน้นขยะอุตสาหกรรมเป็นหลัก ด้วยการลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลนครนครราชสีมา กับเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวเป็นงานฟื้นฟู ออกแบบ และก่อสร้างระบบฝังกลบขยะมูลฝอยและระบบผลิตปุ๋ยอินทรีย์และผลิตไฟฟ้า ที่สามารถรองรับขยะที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เป็นเวลา 20 ปี คิดเป็นปริมาณขยะไม่น้อยกว่า 230 ตัน/วัน และ 83,950 ตัน/ปี มีมูลค่าโครงการ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มูลค่า 412 ล้านบาท มีระยะเวลาการดำเนินโครงการ 852 วัน ทำให้สามารถรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ปี 2552-2553
"การรับงานก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาล หรือขยะชุมชน ถือเป็นหนึ่งในแผนงานที่เพิ่มความหลากหลายให้กับธุรกิจ เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ นำไปสู่การสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งในอนาคต โดยบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจกำจัดขยะออกไปสู่ภาคนอกอุตสาหกรรมมากขึ้น จากเดิมที่ธุรกิจหลักของบริษัทคือการกำจัดขยะในภาคอุตสาหกรรม ทั้งขยะที่เป็นอันตรายและไม่อันตราย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของบริษัทครบวงจร และมีฐานลูกค้ากว้างขวางขึ้น"
นายสุวัฒน์กล่าวต่อถึงความคืบหน้าของโครงการเตาเผาขยะอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเป็นเตาเผาขยะอันตรายที่เป็นเตาเผาอุณหภูมิสูงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งบริษัท อัคคีปราการ จำกัด บริษัทย่อยของ BWG ได้รับสิทธิในการบริหารและประกอบการ จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นระยะเวลา 20 ปีว่า ขณะนี้ได้ซ่อมและปรับปรุงเสร็จแล้ว และสามารถเดินเครื่องในเชิงพาณิชย์ได้ ดังนั้นจะสามารถรับรู้รายได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าในปี 2552 รายได้ของบริษัทจะยังเติบโตต่อเนื่องปี 2551 ได้ในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวแทบจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท
ข้อมูลบริษัท บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG
บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจการบริหารและจัดการสิ่งปฏิกูลฯอย่างครบวงจร (One Stop Service) โดยธุรกิจหลักที่ให้บริการมาตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการ และบริษัทสามารถดำเนินการได้เอง คือ การกำจัด (Disposal) ซึ่งในช่วงเริ่มแรก ปี 2541 เป็นการกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบตามหลักสุขาภิบาล และต่อมาในปี 2548 ได้ขยายไปสู่การกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบอย่างปลอดภัย (รวมทั้งการฝังกลบอย่างปลอดภัยเมื่อทำการปรับเสถียร หรือทำให้เป็นก้อนแข็งแล้ว) โดยมีศูนย์บริหารและจัดการฯ อยู่ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งภายในศูนย์บริหารและจัดการฯ บริษัทยังสามารถให้บริการบำบัด (Treatment) สำหรับการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางเคมีกายภาพ โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทใช้ในการบำบัดน้ำเสียภายในศูนย์บริหารและจัดการฯ ของบริษัทเป็นส่วนใหญ่ แต่หากในอนาคตบริษัทมีกำลังการผลิตเหลือ บริษัทมีนโยบายให้บริการบำบัดน้ำเสียแก่ลูกค้าภายนอกด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2550 บริษัทได้มีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติมในการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ (Recycle) ด้วยการทำเชื้อเพลิงผสม (Fuel Blending) โดยสามารถเริ่มให้บริการในธุรกิจนี้ได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2550 และนอกจากนี้บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่การบำบัด (Treatment) ด้วยวิธีเผาทำลายในเตาเผาเฉพาะสำหรับของเสียอันตราย ผ่านบริษัท อัคคีปราการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย นอกจากนั้น บริษัทมีรายได้ค่าบริการจากการจัดการสิ่งปฏิกูลฯ ด้วยวิธีการอื่นซึ่งบริษัทมิได้เป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเองอีกส่วนหนึ่งด้วย อาทิ การส่งไปเป็นวัตถุดิบทดแทนหรือเผาทำลายร่วมในเตาเผาปูนซีเมนต์ และการส่งไปยังโรงงาน เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ (Recycle) เป็นต้น
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 02-5549395 , 089-4888337