บสท. แสดงผลการบริหารจัดการปี 2551 ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ

ข่าวทั่วไป Wednesday February 11, 2009 17:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--บสท. บสท. แสดงผลการบริหารจัดการปี 2551 ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ สามารถบรรลุเป้าหมายหลักในการปรับโครงสร้างหนี้ส่งลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจนมีข้อยุติแล้วทั้งหมด ส่งผลให้ยอดรายรับจากการบริหารงานจากการปรับโครงสร้างหนี้ 17,375 ล้านบาท และจากการบริหารและขาย NPA 10,548 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายปี 2552 มุ่งเน้นการกำกับดูแลติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิด และเร่งระบาย NPA สร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อนำทรัพย์ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ นายกัญจนพันธุ์ พันธ์สุวรรณ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานปี 2551 ที่ผ่านมาว่า บสท. สามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่รับโอนมาจากสถาบันการเงิน จนมีข้อยุติแล้วทั้งหมด 100 % โดย บสท. ได้รับชำระเป็นเงินสดตามแผนปรับโครงสร้างหนี้รวม 17,375 ล้านบาท รายรับข้างต้นส่วนใหญ่มาจากการชำระหนี้ตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บสท. ประสบความสำเร็จในการช่วยให้ลูกหนี้สามารถกลับไปดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ และนำเงินมาชำระหนี้ได้ตามแผน อย่างไรก็ดี บสท. ได้มีการติดตามดูแลลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เกิดปัญหาลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ โดย ณ สิ้นปี 2551 บสท. มีลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระเกินกว่า 90 วัน เพียงร้อยละ 1.69 ของแผนการชำระหนี้ที่เป็นเงินสดตามสัญญาที่ได้รับอนุมัติ ในปี 2551 บสท. สามารถบริหารจัดการและจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ได้จำนวน 9,151 ล้านบาท เมื่อรวมกับการขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันโดย บสท. จำนวน 432 ล้านบาท และการขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันโดยกรมบังคับคดี จำนวน 965 ล้านบาท ทำให้ บสท. มียอดการบริหารและจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายรวมจำนวน 10,548 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า บสท. ให้ความสำคัญและมีการวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม เป็นการนำทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ กลับมาใช้ในระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ระบบเศรษฐกิจ นายกัญจนพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อระบายทรัพย์สินในพอร์ตของ บสท. ให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในระบบเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ บสท. ได้สร้างเครือข่ายการขายทรัพย์สินด้วยการจัดโครงการ “สมาชิกนักขาย” เปิดรับสมัครบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ที่ทรัพย์สินของ บสท. ตั้งอยู่ เพื่อใช้เป็นช่องทางในการแนะนำทรัพย์สินของ บสท. ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ บสท.ได้จัดกิจกรรมออกบูธ (Road Show) เดินสายเปิดบูธทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าร่วมงานมหกรรมบ้านธนาคาร 51 ของชมรมสินทรัพย์รอการขายธนาคารไทยพาณิชย์ สมาคมธนาคารไทย เพื่อเป็นการขยายขอบเขตการรับรู้ในการขาย ทรัพย์สินรอการขายของ บสท. และเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นนักธุรกิจ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มลูกค้ารายย่อยในท้องถิ่น นอกจากนี้ บสท. ยังได้ให้ความสำคัญกับการช่วยลดภาระหนี้สาธารณะของประเทศและลดภาระการค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่ บสท. ออกให้สถาบันผู้โอน.ในปี 2551 ได้ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงิน ในส่วนของดอกเบี้ย จำนวน 24,256 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ยจ่าย จำนวน 2,103 ล้านบาท คงเหลือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ยังไม่ได้ไถ่ถอนอีกจำนวน 109,189 ล้านบาท จากตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกทั้งหมด จำนวน 248,760 ล้านบาท นายกัญจนพันธุ์ กล่าวว่า “ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงสิ้นปี 2551 บสท. สามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่รับโอนมาจากสถาบันการเงินทั้งสิ้น 15,215 ราย มูลค่าทางบัญชี 775,216 ล้านบาท จนมีข้อยุติแล้วทั้งหมด 100 % โดยเป็นการยุติด้วยการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 6,754 ราย มูลค่าทางบัญชี 414,202 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 53.43 ของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่รับโอนทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บสท. ได้ช่วยเหลือลูกหนี้ให้มีโอกาสดำเนินธุรกิจต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์หลักในการจัดตั้ง บสท. ส่วนที่เหลือจำนวน 8,461 ราย มูลค่าทางบัญชี 361,014 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.57 ยุติด้วยการบังคับหลักประกัน โดย บสท. มีรายรับจากการบริหารงานรวมทั้งสิ้น 164,872 ล้านบาท เป็นเงินรับจากการชำระหนี้ตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 129,391 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 63.78 ของแผนเงินสดรับชำระ รายรับอีกส่วนเป็นเงินสดรับจากการขายทรัพย์สินรอการขาย จำนวน 33,249 ล้านบาท และจากการขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกัน จำนวน 2,232 ล้านบาท ” ในส่วนของทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จนถึง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บสท. ได้รับโอนทรัพย์สินรอการขายด้วยมูลค่าที่ตีโอนรวมทั้งสิ้น 122,632 ล้านบาท แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 100,822 ล้านบาท และสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 21,809 ล้านบาท ซึ่ง บสท. ได้จำหน่ายทรัพย์สินรอการขายตามราคาจำหน่ายไปแล้วทั้งสิ้น 33,892 ล้านบาท คงเหลือทรัพย์สินรอการขายที่จะต้องบริหารจัดการอีก จำนวน 91,339 ล้านบาท เมื่อรวมกับการขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันโดย บสท. จำนวน 1,646 ล้านบาท และการขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันโดยกรมบังคับคดี จำนวน 4,908 ล้านบาท ทำให้ บสท. มียอดจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายสะสมรวมทั้งสิ้น 40,445 ล้านบาท นายกัญจนพันธุ์ ได้เปิดเผยว่า ปี 2552 บสท. ได้ตั้งเป้าหมายในการดำเนินงาน โดยคาดว่าจะมีรายรับจากการจัดเก็บหนี้ลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 14,500 ล้านบาท ด้วยการมุ่งเน้นการกำกับดูแลติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือให้ลูกหนี้สามารถปฏิบัติตามแผนฯ ได้ นอกจากนี้จะเพิ่มความเข้มงวดในการใช้อำนาจทางกฎหมาย เพื่อส่งสัญญาณในกรณีที่ลูกหนี้ไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแผนฯ และจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย จำนวน 9,400 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์วิเคราะห์โอกาสทางการตลาด และศักยภาพของทรัพย์ชิ้นใหญ่ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ด้านราคา กลยุทธ์การตลาด และการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้เหมาะสมกับทรัพย์แต่ละประเภท เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่ง บสท. จะนำเงินดังกล่าวบางส่วนไปไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นจำนวน 21,000 ล้านบาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และการยุบเลิก ส่วนประชาสัมพันธ์ 0-2265-5108 (จิรัชยา)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ