กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
บลจ.กสิกรไทย ประเดิมออกขาย 2 กองทุนใหม่พร้อมกัน คือ “กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 10/49 บี” และ “กองทุนเปิดกสิกรไทยคืนกำไร 5/50” เอาใจตลาดนักลงทุนตราสารหนี้ประเภท 6 เดือน และ 1 ปี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม — 3 เมษายน 49 นี้ พร้อมมั่นใจระดมทุนมากกว่าหมื่นล้านบาท
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า “บลจ.กสิกรไทย เตรียมเปิดขายกองทุนประเภทตราสารหนี้จำนวน 2 กองทุนพร้อมกัน ได้แก่ กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 10/49 บี (R1049B) และ กองทุนเปิดกสิกรคืนกำไร 5/50 (KI0550) ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม — 3 เมษายน 2549 นี้ พร้อมระดมทุนกว่าหมื่นล้านบาท ภายใต้ภาวะตลาดกองทุนตราสารหนี้ที่มีอนาคตสดใสและเป็นที่สนใจของนักลงทุน ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่กำลังมองหาผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และมุ่งหวังผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับจากดอกเบี้ยหรือกำไรส่วนเกินจากการลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่รัฐบาล กระทรวงการคลังหรือธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้อาวัล หรือผู้ค้ำประกัน”
“กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 10/49 บี (R1049B) และ กองทุนเปิดกสิกรคืนกำไร 5/50 (KI0550) เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ อายุประมาณ 6 เดือน และ 12 เดือน มีขนาดกองทุน 3,000 และ 8,000 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกองทุนทั้ง 2 กองทุนข้างต้น เน้นลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่รัฐบาล กระทรวงการคลัง หรือธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้อาวัล หรือผู้ค้ำประกันในอัตราส่วนเฉลี่ยรอบอายุกองทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และ 75 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนตามลำดับ เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้และหรือเงินฝากของสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Notes)“
สำหรับ ผลตอบแทนต่อปีโดยประมาณของพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ของสถาบันการเงิน อายุ 6 เดือน ณ วันที่ 24 มีนาคม 2549 เท่ากับร้อยละ 4.48 (ที่มา:สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย) ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 10/49 บี เท่ากับร้อยละ 0.58 ต่อปี ดังนั้นผลตอแทนโดยประมาณของพันธบัตรรัฐบาลหลังหักค่าใช้จ่ายของกองทุน เท่ากับร้อยละ 3.90 ต่อปี
“ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหน่วยลงทุนของขั้นต่ำเพียงกองทุนละ 10,000 บาท ราคาขายหน่วยลงทุนที่ 10 บาทต่อหน่วย โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกสาขาของธนาคารกสิกรไทย โทร 0-2888-8888 และที่บลจ.กสิกรไทย โทร 0-2276-2233 ” นางวิวรรณ กล่าว
นางวิวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “บลจ.กสิกรไทยพร้อมจะพัฒนารูปแบบการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน ในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 4 กองทุน ด้วยยอดขายรวมสูงถึง 20,965.35 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนที่แสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากเป็นอย่างดี และยังเป็นผลมาจากความเชื่อถือในผลการดำเนินงานที่โปร่งใสมาโดยตลอดของบริษัท
บลจ.กสิกรไทยได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย เป็นบริษัทในกลุ่ม KGroup ของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดย ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549 บริษัทฯ มีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 214,720.89 ล้านบาท (ข้อมูล บลจ.กสิกรไทย)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บ.นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
นฤพร ชีวนันทพรชัย / สตรีรัตน์ ล้ำเลิศปัญญา
โทร (02) 631-2290-5 ต่อ 310 และ 304 แฟกซ์ : (02) 234-6192-3
E-Mail : narueporn@neotarget.com / satreerat@neotarget.com