กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--กฟผ.
กฟผ. เชิญชวนผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนทั้ง ไอพีพี และ เอสพีพี ร่วมฟังการบรรยายเชิงสัมมนา “แผนการผลิต และ ส่งไฟฟ้า ปี 2552” พร้อมรับมือความต้องการใช้ไฟฟ้าลด จากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
นายพิบูลย์ บัวแช่ม ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดการบรรยายเชิงสัมมนา “แผนการผลิต และ ส่งไฟฟ้า ปี 2552” ณ สำนักงานกลาง กฟผ. จ.นนทบุรี โดยเชิญหน่วยงานผลิตไฟฟ้าเอกชน ทั้งผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (ไอพีพี) และผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (เอสพีพี) ร่วมรับรู้แนวทางการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.รับสภาวะเศรษฐกิจ ปี 2552
นายพิบูลย์ กล่าวว่า การวางแผนการผลิตและแผนการส่งไฟฟ้า มีความสำคัญต่อการดำเนินงาน ด้านการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในปีนี้สถานการณ์หลายด้านอยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. อย่างหลีกเลี้ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามการประสานงานที่ดีระหว่าง กฟผ. กับ หน่วยงานผลิตไฟฟ้าเอกชนทั้ง ไอพีพี และ เอสพีพี จะทำให้การดำเนินงานด้านการผลิตและส่งไฟฟ้า เป็นไปอย่างราบรื่นมีประสิทธิภาพ และสามารถฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆ ไปได้ด้วยดี
ด้าน นายอดุลย์ พิทักษ์ชาติวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. มีหน้าที่รับผิดชอบในการวางแผน ควบคุมการผลิต และส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงและเชื่อถือได้ โดยการดำเนินการในปี 2552 นี้ กฟผ.ได้วางแผนการผลิตและส่งไฟฟ้าให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟของประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำลง ทำให้การใช้ไฟฟ้าไม่เพิ่มขึ้นดังที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องมีการปรับแผนการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม จึงจัดการสัมมนาครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลิต และจัดส่งไฟฟ้า ทั้ง ของ กฟผ. และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนเข้าใจสถานการณ์ และนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
นายสุวัทย์ ลิ้มวัฒนะกูร ผู้จัดการ บริษัท บางกอก โคเจนเนอเรติ้ง กล่าวภายหลังจบการสัมมนาว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก ช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ และการจัดการ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และควรจัดงานสัมมนาชี้แจงแก่หน่วยงานธุรกิจอื่นๆ ด้วยจะเป็นประโยชน์มากขึ้น
ด้านนายนภดล เพชรประพันธ์ รองผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการบริษัท อีสเทิร์น เพาเวอร์ แอนด์อิเล็คทริค จำกัด กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน การได้รับรู้แผนการผลิตของ กฟผ. ในปี 2552 ว่ามีทิศทางมองไปข้างหน้าอย่างไร จะทำให้บริษัทสามารถวางแผนรับมือ ให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงเนื่องจากปัญหาสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ