กระแสตอบรับตราสารหนี้ต่างประเทศดี KTAMเปิดขายกองทุนอายุ6เดือนต่อทันที

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 24, 2009 14:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--กรุงไทย นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเปิดจำหน่ายกองทุนของบริษัทในทุกๆสัปดาห์ บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุน 2 ประเภท คือ กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ และกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าเลือกลงทุนตามความเหมาะสม ปรากฎว่ากองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ในประเทศ ในระดับความเสี่ยงที่ใกล้เคียงกัน ในสัปดาห์นี้ บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน21 (KTFIF6M21) อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 3,000 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ — 3 มีนาคม 2552 เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารภาครัฐต่างประเทศ หรือเงินฝากในสถาบันการเงิน ตราสารแห่งหนี้หรือตราสารทางการเงินอื่นใด ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือบริษัทอาจพิจารณาลงทุนบางส่วนในประเทศ โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ในสถาบันการเงินตามกฎหมายไทย ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารการเงินประเภท ECP หรือ MTN ที่ออกโดยสถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร 2 อันดับแรกขึ้นไป ผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3.70-3.80% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุน ทั้งนี้ เงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นในประเทศอายุไม่เกิน 1 ปี ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับ 1.38 -1.45% จากการคาดการณ์ว่าที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้ จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกอย่างน้อย 0.50% จากปัจจุบันที่อยู่ในอัตรา 2.00% ต่อปี เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ทยอยประกาศออกมาได้ส่งสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจรุนแรงและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นเพิ่มขึ้นทั้งจากกองทุนตลาดเงินระยะสั้น กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น และนักลงทุนสถาบันต่างๆ ที่ต้องการพักเงินหรือต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุนตราสารการเงินประเภทอื่นๆ ทั้งนี้ จากการปรับลดลงของผลตอบแทนตราสารหนี้ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้การลงทุนในระยะสั้นจะมีความเสี่ยงจากการลงทุนใหม่ (Reinvestment Risk) เพิ่มขึ้น และส่งผลให้การลงทุนในตราสารภาคเอกชนหรือตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีความมั่นคง (Credit Rating 3 อันดับแรกขึ้นไป) มีความน่าสนใจมากขึ้น เมื่อพิจารณาจากผลตอบแทนและความเสี่ยงที่อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณแสงสิริ เนตรอัมพร / โทร 02-670-4900 ต่อ 1235

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ