MINOR มีกำไรสุทธิประจำปี 367 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34

ข่าวทั่วไป Thursday February 26, 2009 11:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (MINOR) ประกาศผลกําไรสุทธิประจําปี 2551 เท่ากับ 367 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 แม้ว่าธุรกิจแฟชั่น เครื่องสําอางค์ ธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้าอุปโภค และธุรกิจเพื่อการศึกษาจะประสบความท้าทายจากสถานการณ์การเมืองและสภาวะเศรษฐกิจตลอดปี 2551 แต่ MINOR ยังคงมีรายได้ 3,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 3 อีกทั้งยังได้รับเงินปันผลและส่วนแบ่งกําไรจากการลงทุนใน Minor International (MINT) ในสัดส่วนร้อยละ 18.6 ส่งผลให้ผลกําไรของ MINOR มีความแข็งแกร่งขึ้น กลุ่มธุรกิจค้าปลีกมีสัดส่วนยอดขายคิดเป็นร้อยละ 44 ของยอดขายรวมในปี 2551 โดยมีรายได้1,342 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 8 สําหรับธุรกิจแฟชั่นภายใต้แบรนด์ เอสปรี บอสสินี ทิมเบอร์แลนด์ และชาร์ลส แอนด์ คีธ มียอดขายเท่ากับ 1,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ส่วนธุรกิจเครื่องสําอางค์ภายใต้แบรนด์ เรด เอิร์ธ บลูม ลาเนจ และ สแมชบ๊อกซ์ มียอดขาย 234 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้าอุปโภคของ MINOR มีสัดส่วนยอดขายคิดเป็นร้อยละ 46 ของยอดขายรวมในปี 2551 ลดลงร้อยละ 8 สืบเนื่องจากการชะลอการสั่งผลิตสินค้าบางประเภทจากลูกค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าในกลุ่ม Fast Moving Consumer Goods (FMCG) ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจและความต้องการที่ลดลงในภูมิภาค อย่างไรก็ดี โรงงานการผลิตของ MINOR ที่ได้สร้างในปี 2547 นั้น จัดเป็นหนึ่งในโรงงานการผลิตที่มี คุณภาพสูงที่สุดในประเทศไทย โดยรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า FMCG ชั้นนําต่างๆ ได้แก่ ยูนิลีเวอร์ และ เอส ซี จอห์นสัน เป็นต้น ในปี 2551 MINOR รับรู้ส่วนแบ่งกําไรตามสัดส่วนการถือหุ้นใน MINT สูงถึง 357 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 40 จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนการถือหุ้นใน MINT จากสัดส่วนเดิมร้อยละ 4.3 เป็นร้อยละ 18.6 ด้วย การเข้าซื้อหุ้น MINT ที่ราคา 4 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 3 ปี 2548 โดย ณ ปัจจุบัน มูลค่าหุ้นทางตลาดของ MINT ในสัดส่วนที่ถือโดย MINOR มีมูลค่าเท่ากับ 4.9 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2552 MINOR แจ้งว่า คณะกรรมการของบริษัทได้รับข้อเสนอเรื่องแผนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจกับ MINT โดย MINT เสนอการแลกหุ้นระหว่างหุ้นที่ออกใหม่ของ MINT และหุ้นเรียกชําระแล้วทั้งหมดของ MINOR เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของสํานักงาน กลต. ที่ กจ. 6/2543 โดยคณะกรรมการของบริษัทได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อวิเคราะห์รายละเอียดของแผนการปรับโครงสร้างและให้ความเห็นต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 ทั้งนี้ MINT ได้กําหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2552 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นลงมติต่อข้อเสนอของ MINT เรื่องแผนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) เป็นผู้นําด้านการจัดจําหน่ายสินค้าแฟชั่นจากต่างประเทศในประเทศไทย ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสําอางค์ และผลิตภัณฑ์เพื่อการศึกษา โดยเครื่องหมายการค้าที่บริษัทเป็นผู้จัดจําหน่ายในปัจจุบันได้แก่ เอสปรี เรดเอิร์ธ บอสสินี่ ทิมเบอร์แลนด์ ชาร์ลสแอนด์คีธ บลูม ลาเนจ สแมช บ็อกซ์ ทูมี่ เฮงเคล ไทม์ไลฟ์ และเวิลด์บุ๊ค นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้นําในธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้า โดยมีโรงงานเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MINT โดยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 18.6 ของทุนจดทะเบียนที่ชําระแล้วในปัจจุบัน รายละเอียด เพิ่มเติมสามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.minornet.com Press Contacts: Pratana Mongkongkul / Prapharat Tangkawattana / Jim Fralick at Tel: (662) 381-5151

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ