KTAMเปิดขาย2กองทุนตราสารหนี้ทั้งใน -ตปท. ลงทุนตราสารแบงก์เกาหลีใต้6เดือนชู3.50%ต่อปี

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 24, 2009 16:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย2 กองทุนตราสารหนี้ทั้งใน และต่างประเทศ ประกอบด้วย กองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6เดือน23 (KTFIF6M23 ) และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 6 (KTSIV6M6) โดยกองทุน KTFIF 6M23 เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2552 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 3,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ประเภท Euro Commercial Paper (ECP) / Euro Medium Term Note (EMTN) โดยกองทุนจะลงทุนใน Export —Import Bank of Korea , Korea Development Bank ในสัดส่วนสถาบันละ 35% และลงทุนใน Industrial Bank of Korea ในสัดส่วน 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับอัตราผลตอบแทนประมาณการที่ 3.50% ต่อปี โดยเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ทั้งนี้ สถาบันการเงินทั้ง 3 แห่ง จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ เป็นกลไกที่สำคัญของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการดำเนินนโยบายต่างๆ ( Policy Bank ) โดยปัจจุบันรัฐบาลเกาหลีใต้ถือหุ้นใน Export - Import Bank of Korea และ Korea Development Bank ทั้ง100% และถือหุ้นใน Industrial Bank of Korea ประมาณ 67% นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศเริ่มมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน( FOMC )ของสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องด้วยวิธีการเข้ารับซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ระยะสั้นกลาง-ยาว (Quantitative Easing Program — QEP) เพื่อลดต้นทุนการเงินของระบบ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคาร (LIBOR) ปรับลดลง ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของสถาบันการเงินและประเทศต่างๆ ลดลงเช่นกัน จากที่ผ่านมา มีการเพิ่มปริมาณเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ในระบบอย่างมาก ทำให้เกิดแรงเทขายดอลล่าร์สหรัฐฯ และกดดันให้สกุลเงินต่างๆ แข็งค่าขึ้นรวมถึงเงินบาท แนวโน้มของปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับตัวลดลงตาม ส่วนกองทุน KTSIV6M6 มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2552 โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในสถาบันการเงินและตราสารหนี้ระยะสั้นของบริษัทเอกชนในประเทศที่มีอันดับเครดิต A- ขึ้นไป ซึ่งกองทุนจะลงทุนใน เงินฝาก /บัตรเงินฝาก /ตั๋วแลกเงิน ของธนาคารสินเอเชีย และธนาคารทิสโก้ ในสัดส่วนสถาบันละ 12.50% ลงทุนในหุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 25% และลงทุนในตั๋วแลกเงินของบมจ.บัตรกรุงไทย และบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์ และการกลั่น ในสัดส่วนสถาบันละ 25% ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.70% ต่อปี โดยการลงทุนในกองทุนจะไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณแสงสิริ เนตรอัมพร / โทร 02-670-4900 ต่อ 1235 / 085-1800-441

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ