กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ปภ.
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่มักเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์อยู่เสมอ ในประเทศไทยมีจุดตัดทางรถไฟ จำนวนกว่า ๒,๔๐๐ แห่งทั่วประเทศ โดยเป็นทางรถไฟที่ไม่มีแผงกั้นทางนับ ๑,๐๐๐ แห่ง โดยอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวมักเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ และสภาพเส้นทางที่ไม่มีแผงกั้นทางรถไฟ หรือเครื่องหมายเตือนให้ระวังรถไฟ เพื่อความปลอดภัยในการขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีปฏิบัติ ดังนี้
กรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ชำนาญเส้นทาง ทำให้ไม่ทราบว่ามีเส้นทางรถไฟตัดผ่าน ผู้ขับขี่ควรหมั่นสังเกตสัญลักษณ์ ป้ายเตือนข้างทาง หรือลูกคลื่นที่พื้นผิวจราจรซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าทางข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟ หากสังเกตเห็นรถไฟกำลังวิ่งผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นระยะใกล้หรือไกล ผู้ขับขี่ควรหยุดรถรอให้รถไฟขับผ่านไปก่อน เพราะส่วนใหญ่บริเวณจุดตัดทางรถไฟจะมีลักษณะเป็นเนินที่ผู้ขับขี่ต้องเร่งความเร็วในการขับผ่าน แต่หากเครื่องยนต์เกิดการขัดข้อง ล้อรถไปติดกับร่องรางรถไฟ หรือการบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถเร่งเครื่อง เพื่อขับข้ามทางรถไฟได้ทัน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุถูกรถไฟชนได้
กรณีขับผ่านจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีแผงกั้นทาง ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวัง เป็นพิเศษ หากต้องขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟในช่วงกลางคืนที่มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณทางโค้ง เส้นทางที่มีต้นไม้หรือทิวทัศน์บดบังการมองเห็น ผู้ขับขี่ควรชะลอความเร็วของรถและหยุดรถห่างจากทางรถไฟ ไม่ต่ำกว่า ๕ เมตร เมื่อเห็นว่าไม่มีรถไฟขับผ่านมาอย่างแน่นอน จึงค่อยขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ
กรณีขับผ่านจุดตัดทางรถไฟที่มีแผงกั้น เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเตือนรถไฟหรือ แผงกั้นทางรถไฟถูกปิดลงมา ผู้ขับขี่ควรหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่ต่ำกว่า ๕ เมตร ไม่ควรเร่งความเร็ว หรือยกแผงกั้นทางรถไฟออกเพื่อขับรถผ่านไป เพราะรถไฟที่ขับมาด้วยความเร็วสูงจะไม่สามารถหยุดได้ทันท่วงที เป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรม ควรรอจนกว่าแผงกั้นทางรถไฟจะถูกยกขึ้น จึงสามารถขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ
นอกจากนี้ หากมีสัญญาณไฟจราจรในบริเวณทางรถไฟ ผู้ขับขี่ไม่ควรหยุดรถคร่อมรางรถไฟ เป็นอันขาด เพราะหากรถไฟวิ่งผ่านมา จะไม่สามารถเคลื่อนรถหนีได้ทัน